Stock

‘ดาวโจนส์’ ปิดบวก 158.11 จุด ตลาดยังเกาะติดสัญญาณเฟด ‘ลดดอกเบี้ย’ ปี 67

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (14 ธ.ค.) โดยที่ “ดาวโจนส์” ทำสถิติสูงสุดติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เหตุนักลงทุนยังขานรับ สัญญาณลดดอกเบี้ยในปีหน้าของเฟด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 37,248.35 จุด เพิ่มขึ้น 158.11 จุด หรือ +0.43% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,719.55 จุด เพิ่มขึ้น 12.46 จุด หรือ +0.26% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 14,761.56 จุด เพิ่มขึ้น 27.59 จุด หรือ +0.19%

ดาวโจนส์

นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มลดดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในการประชุมเดือนมีนาคม 2567 หลังส่งสัญญาณยุติวัฏจักรขึ้นดอกเบี้ย และจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 3 ครั้งในปี 2567 ในการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 81.4% คาดว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 30-31 มกราคม 2567 และให้น้ำหนัก 72.6% คาดว่า เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนมีนาคม 2567 จากเดิมที่ประเมินว่าจะลดดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในการประชุมเดือนพฤษภาคม 2567

ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากการเปิดเผยยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะไม่เผชิญภาวะถดถอย แต่จะชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป หรือซอฟต์แลนดิ้ง

หุ้น 6 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณใน ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดในแดนบวก นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้น 2.94% และดัชนีหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์พุ่งขึ้น 2.62%

ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ตลาดฟิลาเดลเฟีย (PHLX Semiconductor Index) พุ่งขึ้น 2.7% ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ดัชนี Russell 2000 Index ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นกลุ่มบริษัทที่มีทุนจดทะเบียนต่ำ พุ่งขึ้น 2.7% เช่นกัน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo