ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (14 ธ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ขยับขึ้น 94.51 จุด ขานรับผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ ส่งสัญญาณยุติวัฏจักรขึ้นดอกเบี้ย และจะเริ่มลดดอกเบี้ยในปีหน้า
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 37,184.75 จุด เพิ่มขึ้น 94.51 จุด หรือ 0.25% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,721.93 จุด ขยับขึ้น 14.84 จุด หรือ 0.32% และดัชนีแนสแด็กที่ 14,770.99 จุด เพิ่มขึ้น 37.03 จุด หรือ 0.25%
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้
ในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยอย่างน้อย 3 ครั้งในปี 2567 โดยปรับลดครั้งละ 0.25% รวม 0.75% จากเดิมที่ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้ง พร้อมกับส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยอีก 4 ครั้งในปี 2568 โดยปรับลดครั้งละ 0.25% รวม 1.00%
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 81.4% คาดว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 30-31 มกราคม 2567 และให้น้ำหนัก 72.6% คาดว่า เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนมีนาคม 2567 จากเดิมที่ประเมินว่าจะลดดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในการประชุมเดือนพฤษภาคม 2567
ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 4.0% และแรงหนุนจากการเปิดเผยยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่ง ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะไม่เผชิญภาวะถดถอย แต่จะชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป หรือซอฟต์ แลนดิ้ง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นปรับหลักเกณฑ์ออก Baht Bond
- จับตา! ‘บิตคอยน์’ จ่อทะลุ 1 แสนดอลล์ปี 67 อานิสงส์เฟดลดดอกเบี้ย-สหรัฐไฟเขียวขาย ETF
- ‘มูดี้ส์’ ลดความน่าเชื่อถือสหรัฐ สู่ ‘เชิงลบ’ ยังตรึงเครดิตที่ Aaa