ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (22 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ทะยานขึ้นกว่า 100 จุด แรงหนุนจากการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 35,241.68 จุด ทะยานขึ้น 153.39 จุด หรือ 0.44% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,557.11 จุด เพิ่มขึ้น 18.92 จุด หรือ 0.42% และดัชนีแนสแด็กที่ 14,277.16 จุด บวก 77.17 จุด หรือ 0.54%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 4.4% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 30 ปีแตะระดับ 4.524% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา
การปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก รวมถึงอัตราดอกเบี้ยจำนองของสหรัฐ จะทำให้ผู้บริโภคมีเงินสำหรับการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น และช่วยลดต้นทุนการชำระหนี้ของบริษัทต่าง ๆ ทำให้บริษัทเหล่านี้สามารถเพิ่มการลงทุน และเพิ่มการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน
นักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคม ก่อนที่จะลดดอกเบี้ยในเดือนพฤษภาคม 2567 แม้มีการเปิดเผยรายงานการประชุมของเฟดเมื่อวานนี้ (21 พ.ย.)
รายงานการประชุมของเฟดประจำวันที่ 31 ตุลาคม-1พฤศจิกายนที่ผ่านมา ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยอีก หากเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้น และไม่มีการบ่งชี้ว่า เฟดจะลดดอกเบี้ยในไม่ช้านี้
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนธันวาคม 2566 มกราคม 2567 และมีนาคม 2567 ก่อนที่จะลดดอกเบี้ย 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนพฤษภาคม 2567
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปิดทำการในวันพรุ่งนี้ (23 พ.ย.) เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า และเปิดการซื้อขายเพียงครึ่งวันในวันศุกร์ (24 พ.ย.)
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ส่องกลยุทธ์ลงทุนหุ้นไทยโค้งสุดท้าย! แนะเก็บหุ้นปันผล รับฟันด์โฟลว์ไหลเข้า
- 9 เดือนแรกปีนี้ หุ้นอะไรบ้างให้ผลตอบแทนสูงสุด
- ตลท. ชี้ความขัดแย้งตะวันออกกลางกดดันหุ้นทั่วโลก แนะติดตามข้อมูลรอบด้าน