Stock

กลยุทธ์ลงทุนหุ้นน้ำหวาน ‘CBG-SAPPE-OSP’ เมื่อราคาน้ำตาลกดกำไร

กลยุทธ์ลงทุนหุ้นน้ำหวาน CBG-SAPPE-OSP เมื่อราคาน้ำตาลในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้น ส่งผลกระทบอย่างไร 

ปรากฎการณ์เอลนีโญ ทำให้ราคาน้ำตาลโลกพุ่งสูงสุดในรอบเกือบ 13 ปี ซึ่งจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศรุนแรง ได้กระทบต่อกำลังการผลิตน้ำตาลของผู้ผลิตรายใหญ่ในประเทศไทยและอินเดีย โดยองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ หรือ เอฟเอโอ (FAO) เผยว่า ดัชนีราคาน้ำตาล เพิ่มขึ้น 9.8% จากเดือนก่อน จนแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 13 ปี นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 2010

จากกรณีดังกล่าวแน่นอนว่าย่อมส่งผลกระทบต่อทิศทางผลการดำเนินงานของหุ้นอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งจะทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนการผลิต และอัตราการทำกำไร (Margin) ของแต่ละบริษัท

หุ้นน้ำหวาน เมื่อราคาน้ำตาลโลกพุ่ง 

บทวิเคราะห์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุว่าราคาน้ำตาลในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้น 14% QTD และ 40% YTD ซึ่งได้ฉุดให้ราคาหุ้นในกลุ่มเครื่องดื่มร่วงลงมาแรง โดยฝ่ายวิจัยประเมินว่า หุ้นที่จะได้รับผลกระทบสูงและน่าจับตามองกลยุทธ์ ได้แก่ CBG หรือ บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน), SAPPE หรือ บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) และ OSP หรือ บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน)

ทั้งนี้ ประมาณการโดยใช้สมมติฐานราคาน้ำตาลที่สูงขึ้นประมาณ 5 – 10% ในปี 2567 จะส่งผลต่อกำไรในปี 2567 ของหุ้น CBG จะปรับลดลง 5% ของหุ้น SAPPE จะปรับลดลง 6% และของหุ้น OSP จะปรับลดลง 5% ดังนั้น ราคาน้ำตาลที่สูงขึ้นจึงเป็นประเด็นท้าทายของกลุ่มทีเดียว

หุ้นน้ำหวาน

เนื่องจากราคาน้ำตาลถือเป็นต้นทุนหลักของผู้ผลิตเครื่องดื่ม ซึ่ง CBG และ OSP อาจจะเพิ่มขึ้นประมาณ 15% ฉุดให้ GPM ลดลงประมาณ 1% ในขณะที่ต้นทุนน้ำตาลของ SAPPE จะเพิ่มขึ้น 20-25% ซึ่งจะฉุดให้ GPM ลดลงประมาณ 1.5% อย่างไรก็ตาม ด้วยต้นทุนบรรจุภัณฑ์ที่ลดลงและค่าเงินบาทที่อ่อนลง จะช่วยหักล้างผลกระทบด้านลบไปได้ส่วนหนึ่ง

ดังนั้น จึงปรับประมาณการกำไรปี 2566-2567 และราคาเป้าหมายปี 2567 เพื่อสะท้อนถึงราคาน้ำตาลที่พุ่งสูงขึ้นมาในช่วงนี้ โดยปรับลดประมาณการกำไรปี 2567 ของ CBG ลง 5% ปรับของ SAPPE ลง 6% ส่วนในกรณีของ OSP ปรับลดสมมติฐานต้นทุนการผลิตปี 2566-2567 ลง 100-180 ล้านบาท แต่ปรับเพิ่มต้นทุนการผลิตน้ำตาลปี 2567 ขึ้นอีก 270 ล้านบาท ส่งผลให้ประมาณการกำไรปี 2566-2567 เพิ่มขึ้น 5% และ 6% สำหรับราคาเป้าหมายของ CBG อยู่ที่ 85 บาทต่อหุ้น OSP อยู่ที่ 25.25 บาทต่อหุ้น และ SAPPE อยู่ที่ 112 บาทต่อหุ้น

หุ้นน้ำหวาน

หุ้นน้ำหวาน เข้าซื้อสะสมได้ 

แต่อย่างไรก็ดี เนื่องด้วยราคาหุ้น CBG, SAPPE และ OSP ร่วงลงมาแรงแล้ว และผลประกอบการในไตรมาส 3/2566 มีแนวโน้มจะฟื้นตัวดีขึ้น เราจึงคิดว่าราคาหุ้นในปัจจุบันเป็นโอกาสให้เข้าซื้อสะสมได้ ทั้งนี้ จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” CBG และ SAPPE ในขณะที่แนะนำ “ถือ” OSP

สุดท้ายนี้ คาดว่าทิศทางไตรมาส 3/2566 ทาง CBG และ SAPPE จะฟื้นตัวขึ้นอีกทั้ง QoQ และ YoY อิงจากสมมติฐานว่ารายได้ในประเทศค่อนข้างทรงตัว การส่งออกไปยังตลาด CLMV จะลดลง ส่วน margin ดีขึ้นเนื่องจากราคาอลูมิเนียม และ PET Resin ลดลง ขณะที่ปัจจัยเฉพาะตัวของ CBG จะเป็นการผลิตบรรจุภัณฑ์สำหรับธุรกิจเบียร์จะช่วยเพิ่มรายได้ OEM และกำไรสุทธิ ด้าน SAPPE จะมีการส่งออกไปยังยุโรปที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งซึ่งจะช่วยหนุนกำไร

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน