GUNKUL กำไรโตตามนัด จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้ผู้ถือหุ้น 0.06 บาทต่อหุ้น กำหนดจ่ายเงินปันผล 6 ธันวาคมนี้ นักวิเคราะห์มอง GUNKUL เป็นจังหวะสะสมเพื่อลงทุนระยะยาว
ภาพรวมผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2566 ของ GUNKUL บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทนรายใหญ่ของประเทศไทย ถือว่าสามารถสร้างการเติบโตได้ดีตามที่คาดการณ์เอาไว้
โดยบริษัทมีกำไรสุทธิ 426.26 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 92.32% เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 221.64 ล้านบาท ปัจจัยสนับสนุนหลักนั้นมาจากทั้งในส่วนของธุรกิจการขาย ธุรกิจก่อสร้าง รวมถึงปริมาณการผลิตไฟฟ้า ได้แก่ โครงการพลังงานลมที่เพิ่มขึ้นมากอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้งวด 9 เดือนของปี 2566 GUNKUL มีกำไรจากการดำเนินงานปกติอยู่ที่ 1,321.31 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีกำไรเพียง 917.66 ล้านบาท หรืิอคิดเป็นการเติบโตในอัตรา 43.99%
ขณะเดียวกัน GUNKUL พร้อมเดินหน้าประมูลโครงการพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้โครงการโซลาร์ฟาร์มอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเพื่อเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ซึ่งอยู่ในแผนการดำเนินการของบริษัท คาดว่าโครงการแรกจะมีการจ่ายไฟฟ้าได้ในปี 2569
โดยบริษัทมีความมั่นใจในศักยภาพและภาพรวมธุรกิจในอนาคตว่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากโครงสร้างธุรกิจของกลุ่มที่มีส่วนสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการเติบโตของประเทศ และเทรนด์ธุรกิจด้านพลังงานในอนาคต ซึ่งปีนี้ยังเชื่อมั่นว่าผลการดำเนินงานจะเติบโตตามเป้าไม่ต่ำกว่า 15%
จ่ายปันผลระหว่างกาล 0.06 บาทต่อหุ้น
จากความแข็งแกร่งของสถานะทางการเงิน และผลประกอบการที่ยังอยู่ในทิศทางที่ดี GUNKUL จึงมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.06 บาท รวมเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้นไม่เกิน 535 ล้านบาท ซึ่งเป็นการจ่ายปันผลจากกำไรสุทธิงวดไตรมาส 3/2566 โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 6 ธันวาคม 2566
ทั้งนี้ อัตราการจ่ายปันผลดังกล่าวที่ 0.06 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) ที่ประมาณ 2.3% หากเทียบกับราคาปิด ณ วันที่ 9 พฤศจิกายน 2566 ที่ระดับ 2.60 บาทต่อหุ้น
อีกทั้งก่อนหน้านี้ GUNKUL ได้มีมติให้เปิดโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน (Treasury Stock) โดยจะดำเนินการซื้อหุ้นคืนสูงสุดไม่เกิน 380 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท คิดเป็น 4.28 % ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด วงเงินซื้อคืนสูงสุดไม่เกิน 1,120 ล้านบาท กำหนดระยะเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 ถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2567
สำหรับการเปิดโครงการซื้อหุ้นคืนครั้งนี้ บริษัทมีเป้าหมายเพื่อบริหารสภาพคล่องส่วนเกินให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพิ่ม ROE) และเพิ่มกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) รวมถึงทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของธุรกิจบริษัทสะท้อนปัจจัยพื้นฐานที่มีความแข็งแกร่งและยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
นักวิเคราะห์มอง GUNKUL เป็นจังหวะสะสมเพื่อลงทุนระยะยาว
มุมมองนักวิเคราะห์ บล. กรุงศรี พัฒนสิน ต่อหุ้น GUNKUL นั้นมีมุมมองเชิงบวกต่อโครงการซื้อหุ้นคืน 380 ล้านหุ้น วงเงินไม่เกิน 1,120 ล้านบาท จะช่วยสร้างเสถียรภาพราคาหุ้น GUNKUL และหนุน EPS ให้มี Upside +4.47% สอดคล้องกับฐานะการเงินของบริษัทที่ยังแข็งแกร่งและมีสภาพคล่องเหลือ คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้โดยไม่มีปัญหา ด้วยฐานะทางการเงินที่บริษัทมีเงินสดราง 1,700 ล้านบาท และกำไรสะสมที่ 7,959 ล้านบาท
ส่วนในแง่ของปัจจัยพื้นฐาน มองว่า GUNKUL มีความน่าสนใจในระยะยาวที่จะมีโครงการใหม่ ๆ เข้ามาต่อยอดเพิ่มเติมจากการชนะโครงการประมูลโรงไฟฟ้าลม และพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งจะช่วยต่อยอดกำไรทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ทำให้เป็นจังหวะเข้าลงทุนเน้นทยอยสะสมเพื่อลงทุนระยะยาว ราคาเป้าหมาย 3.66 บาทต่อหุ้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- กลุ่ม ปตท. ขนทัพนวัตกรรมเพื่อโลกอนาคต ร่วมงาน 2023 Green Technology Expo
- เปิด ‘อนาคตธุรกิจ ปตท.’ 5 ปี ลงทุน 1.6 แสนล้าน มุ่งทำกำไรหลัก ‘Future and Beyond Business’
- ปตท. จับมือ RINA พัฒนาเชื้อเพลิงไฮโดรเจนในภาคเศรษฐกิจ
