Stock

ลงทุนหุ้น หุ้นกู้ ทองคำ เงินฝาก ยาว 10 ปี แบบไหนให้ผลตอบแทนสูงสุด?

SCB Wealth จำลองสถานการณ์ หากลงทุนหุ้นสหรัฐ หุ้นไทย หุ้นกู้ ทองคำ เงินฝาก 10 ปีในสินทรัพย์ตัวอย่างแต่ละประเภท จะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนเท่าไหร่บ้าง แบบไหนได้มากที่สุด?

การลงทุนในสินทรัพย์แต่ละประเภทนั้น มีโอกาสรับผลตอบแทนที่แตกต่างกัน ซึ่งโดยปกติ สินทรัพย์เสี่ยงสูงก็มักจะมีโอกาสให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า สินทรัพย์เสี่ยงต่ำในระยะยาว แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความผันผวนที่จะสูงกว่าในระยะสั้นที่มีเหตุการณหรือปัจจัยอะไรมากระทบ

ลงทุนหุ้น

ทั้งนี้ ทีมงาน Investment Product Selection & Partnership ของ SCB Wealth ได้จำลองสถานการณ์โดยใช้ข้อมูลย้อนหลัง (Back testing) ว่า ถ้าลงทุนมาแล้ว 10 ปี ในสินทรัพย์ตัวอย่างแต่ละประเภท ผู้ลงทุนจะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนเท่าไหร่บ้าง โดยเลือกคำนวณผลตอบแทนในช่วงระยะเวลาระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม 2013 – 30 กันยายน 2023

สินทรัพย์ที่นำมาคำนวณ ได้แก่

  • หุ้นสหรัฐ ซึ่งใช้ข้อมูลดัชนี S&P500 Total return index จาก Bloomberg ในการคำนวณ
  • หุ้นไทย ใช้ดัชนี SET Total return index
  • หุ้นกู้เอกชนไทย ใช้หุ้นกู้เครดิตเรตติ้ง BBB ช่วงอายุ 3 ปี จาก สมาคมตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA)
  • ทองคำ ใช้ข้อมูลจาก XAUUSD จาก Bloomberg
  • เงินฝาก ใช้ข้อมูลจาก อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน ในอัตราสูงสุด ตามข้อมูลจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

ลงทุนหุ้น

ผลลัพธ์ที่ได้คือ เมื่อเวลาผ่านไป 10 ปี หุ้นสหรัฐ ให้ผลตอบแทน +217% สูงสุดเมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่น ๆ ที่นำมาทดสอบ รองลงมาคือ หุ้นกู้เอกชนไทย +66% ตามด้วยหุ้นไทย +55% ทองคำ +32% และเงินฝาก +14% ซึ่งผลลัพธ์นี้ น่าจะเป็นเครื่องบ่งชี้ที่ดีว่า ยิ่งมีระยะเวลาลงทุนนาน สินทรัพย์เสี่ยงจะมีโอกาสให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า สินทรัพย์เสี่ยงต่ำ

เพียงแต่ระหว่างทางสินทรัพย์เหล่านี้ อาจจะปรับตัวลดลงมากได้ในบางปี อย่างเช่น ช่วงโควิด ซึ่งจะเห็นได้ว่า ทั้งหุ้นสหรัฐฯ และหุ้นไทย ปรับตัวลดลงมาก ในขณะที่ เงินฝาก กับหุ้นกู้เอกชนไทย ผลตอบแทนจะค่อนข้างนิ่ง ไม่ได้เคลื่อนไหวผิดไปจากปกตินัก ส่วนทองคำ เป็นสินทรัพย์ที่ปรับตัวขึ้นได้ ท่ามกลางสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ ที่ปรับตัวลดลง

โดยรวมแล้ว อีกประเด็นที่ภาพนี้สะท้อนได้ดี นอกจากการลงทุนระยะยาว ในสินทรัพย์เสี่ยงสูงมีโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีกว่าสินทรัพย์เสี่ยงต่ำแล้ว หากเราลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย มีทั้งสินทรัพย์ที่เสี่ยงต่ำและเสี่ยงสูงอยู่ในพอร์ต อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับความสามารถในการยอมรับความเสี่ยงของเรา ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้เรา มีโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีได้ในระยะยาว ในขณะที่ความผันผวนของพอร์ตก็จะลดน้อยลง เมื่อเทียบกับพอร์ตลงทุนที่ไปเน้นลงทุนแต่สินทรัพย์เสี่ยงนั่นเอง

หมายเหตุ

  • การจำลองผลตอบแทนโดยใช้วิธี Back testing จัดทำโดยทีมงาน Investment Product Selection & Partnership ในช่วงระยะเวลา 31/08/2013 – 30/09/2023
  • ผลตอบแทนที่แสดงไม่ได้รวม ต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการลงทุน การหักภาษี หรือผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน
  • ข้อมูลที่นำมาคำนวณมีนิยามและแหล่งที่มาดังนี้ เงินฝาก ใช้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน โดยเป็นอัตราสูงสุด ข้อมูลจาก ธปท. , หุ้นกู้เอกชนไทย เครดิตเรตติ้ง BBB ช่วงอายุ 3 ปี ใช้ข้อมูลจาก THAIBMA , หุ้นไทยใช้ดัชนี SET Total return index ข้อมูลจาก Bloomberg ,หุ้นสหรัฐ ใช้ดัชนี S&P500 Total return index ข้อมูลจาก Bloomberg และทองคำใช้ XAUUSD ข้อมูลจาก Bloomberg

คำเตือน

  • การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
  • การลงทุนในผลิตภัณฑ์การลงทุนไม่ใช่การฝากเงิน รวมทั้งไม่ได้อยู่ภายใต้ความคุ้มครองของสถาบันคุ้มครองเงินฝาก จึงมีความเสี่ยงจากการลงทุนซึ่งผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับเงินลงทุนคืนเต็มจำนวน
  • ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

บทความโดย จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์ SCB CIO (จัดทำ ณ วันที่ 20 ต.ค. 66)

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK