เจาะกำไร “เอไอเอส” ไตรมาส 3/2566 โตสนั่น 35% พร้อมมุมมองไตรมาสสุดท้ายปีนี้!!
หุ้นค่ามือถือเบอร์หนึ่งของไทยอย่าง “เอไอเอส” บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ หุ้น ADVANC ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ของปี 2566 ออกมาเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมีกำไรสุทธิ 8,146 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบกับปีก่อน และเพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
แม้ว่ารายได้รวมจะลดลง 0.4% จากปีก่อน ลงมาอยู่ที่ 46,069 ล้านบาท เนื่องจากการขายอุปกรณ์ที่ลดลง แต่บริษัทสามารถทำกำไรได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะการตัดค่าเสื่อมราคาอุปกรณ์ 3G ที่ครบจำนวนแล้ว และการรับรู้รายการพิเศษจากการจำหน่ายเงินลงทุนใน Rabbit Pay จำนวน 434 ล้านบาท
เมื่อเจาะดูผลการดำเนินงานแยกตามรายธุรกิจของ ADVANC จะพบว่าในไตรมาส 3/2566 แต่ละหน่วยธุรกิจสามารถสรุปได้ดังนี้
– ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ รายได้อยู่ที่ 29,311 ล้านบาท เติบโต 0.7% จากปีก่อน แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้ายังหดตัวที่ 0.6% เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่อ่อนตัว
– ธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง มีรายได้ 3,021 ล้านบาท เติบโต 19% จากปีก่อน ตามการขยายการให้บริการในต่างจังหวัด และการขายแพ็กเกจขายพ่วง Content โดย AIS Fibre มีฐานลูกค้ารวมกว่า 2.38 ล้านราย
– ธุรกิจบริการลูกค้าองค์กร มีรายได้ 1,520 ล้านบาท เติบโต 20% จากปีก่อน เนื่องจากลูกค้ากลุ่มนี้ฟื้นตัวดีขึ้น หลังจากสถานการณ์การเมืองที่ชัดเจน และการปิดดีลโครงการขนาดใหญ่ได้ในไตรมาสนี้
สำหรับแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในอนาคต ADVANC ตั้งเป้ารายได้บริการปีนี้โต 3-5% วางงบลงทุน 27,000 – 30,000 ล้านบาท แม้จะอยู่ท่ามกลางความเสี่ยงและความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกและความเสี่ยงด้านการเมืองภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยได้รับการสนับสนุนจากการเติบโตในภาคการท่องเที่ยว ซึ่งช่วยหนุนการบริโภคภาคเอกชนให้สูงขึ้น
มุมมองนักวิเคราะห์ บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ เผยว่าการรายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2566 ของ ADVANC นั้นเป็นไปตามที่บทวิเคราะห์ และ Consensus คาดไว้ ดังนั้น จึงคงประมาณการกําไรปกติปี 2566 ไว้ที่ 2.74 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.1% จากปีก่อน มองว่าผลประกอบการยังอยู่ในช่วงฟื้นตัว ส่วนแนวโน้มกําไรไตรมาส 4/66 คาดว่าจะเห็นกําไรปกติปรับตัวลดลงจากไตรมาส 3 สาเหตุมาจากช่วงไฮซีซั่นของค่าใช้จ่ายด้านการตลาด
ด้าน บล. เอเซีย พลัส มองว่า ADVANC ยังเป็นหุ้นที่มี Upside ในระยะสั้นและระยะกลาง (ช่วง 1-2 ปีข้างหน้า) โดยมีปัจจัยที่ยังไม่รวมในประมาณการ ดังนี้
1. โครงการใช้คลื่น 700 เมกะเฮิร์ตซ ของ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) ที่จะเข้ามาช่วยเสริมความสามารถในการให้บริการ และมีกระแสรายได้ใหม่เข้ามาจากค่าเช่าโครงข่ายที่รับจาก NT คาดจะเริ่มตั้งแต่งวดไตรมาส 4/2566 เป็นต้นไป คาดจะเพิ่มมูลค่าให้ ADVANC ได้ราว 1-2 บาทต่อหุ้น
2. ดีลการเข้าซื้อ บมจ. ทริปเปิลที บรอดแบนด์ (TTTBB) และบริษัทลูก รวมทั้งการซื้อกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตจัสมิน (JASIF) จากผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ บมจ. จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ในขั้นตอนการขออนุญาตจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยบริษัทยังเชื่อว่ากระบวนการของ กสทช. จะแล้วเสร็จได้ภายในปี 2566 คาดจะเพิ่มมูลค่าให้ ADVANC ได้ราว 2-3 บาทต่อหุ้น
3. ธุรกิจใหม่ๆ เช่น ดาต้าเซ็นเตอร์ ที่เป็นความร่วมมือของ 3 ฝ่าย คือ ADVANC, SINGTEL และ GULF ภายใต้งบลงทุนเบื้องต้นราว 200 ล้านดอลลาร์ ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้าง โดยจะเริ่มให้บริการได้ในช่วงต้นปี 2568
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘AIS’ ฟันกำไรไตรมาสแรก 6,757 ล้านบาท
- AIS-GC ร่วมปลุกพลังมหาลัยฯ รักษ์โลก ‘Green University ทิ้ง เทิร์น ให้โลกจำ’
- ‘แซดทีอี-เอไอเอส’ จับมือเปิดตัว ‘เซิร์ฟเวอร์ G5 SERIES’ ประสิทธิภาพ-ความปลอดภัยสูง
