ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (5 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ลดลงกว่า 100 จุด หลังบอนด์ยีลด์ ดีดตัวขึ้น จากตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่ำกว่าคาด บ่งชี้ตลาดแรงงานแข็งแกร่ง และจะเป็นปัจจัยหนุนเฟดขึ้นดอกเบี้ย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 32,982.40 จุด ร่วงลง 147.15 จุด หรือ 0.44% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,239.59 จุด ลดลง 24.16 จุด หรือ 0.57% และดัชนีแนสแด็กที่ 13,156.91 จุด ลดลง 79.10 จุด หรือ 0.60%
การปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (บอนด์ยีลด์) อายุ 10 ปี ซึ่งเป็นพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก รวมถึงอัตราดอกเบี้ยจำนองของสหรัฐ จะทำให้ผู้บริโภคมีเงินสำหรับการใช้จ่ายลดน้อยลง
ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการจ่ายเงินกู้จำนองเพิ่มมากขึ้น และบริษัทต่างๆ จะเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ ทำให้บริษัทเหล่านี้ลดการลงทุน และลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นเพียง 2,000 ราย มาอยู่ที่ 207,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่จำนวน 210,000 ราย
ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลดลง 2,500 ราย สู่ระดับ 208,750 ราย
ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องลดลงมาอยู่ที่ 1.67 ล้านราย ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 1.68 ล้านราย
นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันพรุ่งนี้ (6 ต.ค.) ขณะนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า จะเพิ่มขึ้น 163,000 ตำแหน่ง ในเดือนกันยายน จากจำนวน 187,000 ตำแหน่งในเดือนสิงหาคม และคาดว่าอัตราว่างงานจะปรับตัวลงสู่ระดับ 3.7% จากระดับ 3.8% ในเดือนสิงหาคม
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘สหรัฐ’ รอด ‘ชัตดาวน์’ สภาสูงยอมผ่านร่างงบฯ ชั่วคราว
- ‘พาวเวล’ ส่งสัญญาณ ‘เฟด’ อาจขึ้นดอกเบี้ยอีก จนบรรลุเป้าเงินเฟ้อ 2%
- ‘โกลด์แมน แซคส์’ คาด ‘แบงก์ชาติสหรัฐ’ ไม่ขึ้นดอกเบี้ย ประชุมเดือนพฤศจิกายน