ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (25 ก.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ลดลงเล็กน้อย 24.91 จุด ท่ามกลางความกังวลที่ว่า “ธนาคารกลางสหรัฐ” จะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงเป็นเวลานานเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 33,938.93 จุด ลดลง 24.91 จุด หรือ 0.07% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,329.69 จุด ปรับขึ้น 9.63 จุด หรือ 0.22% และดัชนีแนสแด็กที่ 13,252.17 จุด บวก 40.36 จุด หรือ 0.31%
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 22 ปี
อย่างไรก็ดี ในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (dot plot) เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งภายในสิ้นปีนี้ และส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งในปี 2567 จากเดิมที่คาดการณ์ว่า จะลดดอกเบี้ยมากกว่า 2 ครั้งในปีหน้า สถานการณ์ที่ถือเป็นการส่งสัญญาณว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงนานกว่าที่คาดไว้ เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ตลาดยังถูกกดดันจากการดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ โดยการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงดอกเบี้ยจำนองของสหรัฐ จะทำให้ผู้บริโภคมีเงินสำหรับการใช้จ่ายลดน้อยลง ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการจ่ายเงินกู้จำนองเพิ่มมากขึ้น และบริษัทต่างๆ จะเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ ทำให้บริษัทเหล่านี้ลดการลงทุน และลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกเกี่ยวกับการปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐ หรือชัตดาวน์ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ หากสภาคองเกรสยังไม่มีความคืบหน้าในการผ่านร่างงบประมาณชั่วคราว และส่งต่อให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามเป็นกฎหมายภายในวันเสาร์นี้ (30 ก.ย.)
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ตามคาด! ‘แบงก์ชาติสหรัฐ’ คงดอกเบี้ย ส่งสัญญาณปีนี้ ขึ้นอีก 1 ครั้ง
- ‘พาวเวล’ ส่งสัญญาณ ‘เฟด’ อาจขึ้นดอกเบี้ยอีก จนบรรลุเป้าเงินเฟ้อ 2%
- ‘โกลด์แมน แซคส์’ คาด ‘แบงก์ชาติสหรัฐ’ ไม่ขึ้นดอกเบี้ย ประชุมเดือนพฤศจิกายน
