Stock

‘ดาวโจนส์’ ปิดตลาดดิ่งแรงกว่า 300 จุด ‘บอนด์ยีลด์’ พุ่งสุดรอบ 16 ปี กังวล ‘เฟด’ ตรึงดอกเบี้ยนานเกินคาด

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (21 ก.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ดิ่งแรง 370.46 จุด เหตุนักลงทุนวิตก “เฟด” ตรึงดอกเบี้ยที่ระดับสูงนานกว่าที่คาดกันไว้ ส่งผลให้เกิดแรงเทขายอย่างหนัก โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และอสังหาริมทรัพย์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 34,070.42 จุด ลดลง 370.46 จุด ลดลง -1.08% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,330.00 จุด ลดลง 72.20 จุด หรือ -1.64% และดัชนี แนสแด็กปิดที่ 13,223.98 จุด ลดลง 245.14 จุด หรือ -1.82%

ดาวโจนส์

ดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีร่วงลงกว่า 1% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวภายหลังการประชุมเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินว่า การที่เฟดจะสามารถบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ได้นั้น อาจต้องใช้เวลาอีกนาน

นายพาวเวลยอมรับด้วยว่า แม้มีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐจะอยู่ในภาวะซอฟต์แลนดิ้ง แต่เส้นทางที่จะไปถึงจุดนั้นเริ่มแคบลง และอาจต้องใช้เวลานาน

นอกจากนี้ ข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ยังเป็นปัจจัยสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานาน

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 20,000 ราย มาอยู่ที่ 201,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 225,000 ราย

ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลดลง 7,750 ราย มาอยู่ที่ 217,000 ราย

ตลาดยังถูกกดดันจากรายงานที่ว่า ในการพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐนั้น สมาชิกสภายังคงมีความเห็นต่างในหลายประเด็น ซึ่งรวมถึงประเด็นการใช้จ่ายด้านกลาโหม โดยสภาคองเกรสมีเวลาจนถึงวันที่ 30 กันยายนนี้ ในการผ่านร่างกฏหมายดังกล่าวเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐต้องปิดทำการหรือชัตดาวน์

หุ้นบริษัทเทคโนโลยีซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ร่วงลงอย่างหนัก จนฉุดดัชนีเอสแอนด์พี 500 และแนสแด็ก ปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo