ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (6 ก.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ร่วงแรงกว่า 200 จุด ท่ามกลางความกังวลว่า ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น จะทำให้เฟด ตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ย เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 34,435.77 จุด ร่วงลง 206.20 จุด หรือ 0.60% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,461.20 จุด ลดลง 35.63 จุด หรือ 0.79% และดัชนีแนสแด็กที่ 13,868.18 จุด ร่วงลง 152.77 จุด หรือ 1.09%
นักวิเคราะห์ มองว่า การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันจะหนุนให้อัตราเงินเฟ้อดีดตัวขึ้น และเมื่อพิจารณาร่วมกับเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งกว่าที่คาดไว้ สิ่งนี้จะมีผลกระทบต่อการตัดสินใจด้านอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท (WTI) พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน ขานรับข่าวซาอุดีอาระเบียประกาศขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจจำนวน 1 ล้านบาร์เรลต่อวันจนถึงสิ้นปีนี้ ส่วนรัสเซียขยายเวลาลดการส่งออกน้ำมัน มาอยู่ที่ 300,000 บาร์เรลต่อวัน จนถึงสิ้นปีนี้เช่นกัน
ตลาดยังจับตาการเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ เบจบุ๊ก (Beige Book) จากเฟดในวันนี้ ซึ่งเป็นรายงานที่จะเปิดเผยก่อนการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดเป็นเวลา 2 สัปดาห์
เบจบุ๊ก จะเป็นการประเมินภาวะเศรษฐกิจจากเจ้าหน้าที่เฟด ซึ่งประจำอยู่ใน 12 เขตของสหรัฐ และเป็นการรวบรวมข้อมูลจากมุมมองของผู้นำธุรกิจ รวมทั้งนักเศรษฐศาสตร์ และนายธนาคารในภูมิภาค ทำให้สามารถสะท้อนภาวะเศรษฐกิจสหรัฐในวงกว้าง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- คัด 7 หุ้นเด่นเดือนกันยายน ช่วงเยียวยา SET Index ตลาดโลกผันผวน-การเมืองราบรื่น
- ‘โกลด์แมน แซคส์’ คาด ‘เฟด’ เริ่มหั่นดอกเบี้ยไตรมาส 2 ปี 67
- ‘ยูบีเอส’ ชี้ ตัวเลข ‘เงินเฟ้อ’ สหรัฐ ต่ำกว่าคาด หนุน ‘เฟด’ ยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น