กำไร PTTEP ดีกว่าคาด ราคานํ้ามันหนุนให้เล่นต่อได้ ขณะบล. ฟิลลิป ปรับเพิ่มราคาพื้นฐานหุ้น PTTEP จากเดิม 168 บาท เป็น 175 บาท
บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP รายงานผลประกอบการงวดไตรมาส 2 ของปี 2566 ออกมาดูดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยมีกำไรสุทธิ 21,040 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สวนทางกับรายได้รวมที่ปรับลดลง 15% มาอยู่ที่ 71,477 ล้านบาท
โดยปัจจัยหลักมาจากผลกำไรอัตราแลกเปลี่ยน (FX) 300 ล้านบาท และกำไรจากการประกันความเสี่ยงน้ำมัน (Hedging) 1,000 ล้านบาท นอกจากนี้ บอร์ด PTTEP ได้อนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 4.25 บาท เตรียมขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 15 สิงหาคม 2566 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 29 สิงหาคม 2566
แม้ว่าตัวเลขผลประกอบการที่ดูดีในไตรมาสนี้ จะไม่ได้มาจากการรับรู้จากการดำเนินงานปกติ แต่มาจากกำไรพิเศษเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม แนวโน้มในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 ยังคงแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องตามทิศทางราคาน้ามันดิบในตลาดที่กำลังเร่งตัวขึ้น
มุมมองของนักวิเคราะห์ บล. ลิเบอเรเตอร์ เปิดเผยว่า กลยุทธ์การลงทุน PTTEP ในครึ่งปีหลัง ราคานํ้ามันที่ปรับตัวขึ้นจะเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาหุ้นเล่นทรงตัวได้ อีกทั้งการดําเนินงานครึ่งปีแรกมีการจ่ายเงินปันผล 4.25 บาทต่อหุ้น คิดเป็น Dividend Yield น่าพอใจที่ 2.7% ดังนั้น PTTEP ยังคงเป็นหนึ่งตัวเลือกเล่นเก็งกําไรในกลุ่มพลังงานที่ได้ผลบวกจากราคานํ้ามันในตลาดโลกที่ปรับตัวขึ้น
นักวิเคราะห์ บล. ฟิลลิป คาดว่าครึ่งปีหลัง PTTEP มีโอกาสเติบโตมากกว่าคาด ด้วยราคาน้ำมันดิบดูไบในเดือนกรกฎาคม ปรับตัวขึ้นมาใกล้ระดับ 85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากผลการควบคุมอุปทานน้ำมันเริ่มเห็นผล ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนเริ่มทยอยออกมาและมีความชัดเจนมากขึ้น
ดังนั้น ทางฝ่ายวิจัยจึงทำการปรับประมาณการราคาน้ำมันดิบในครึ่งปีหลังขึ้นจากเดิม 75-80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เป็น 80-85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล พร้อมทั้งปรับเพิ่มราคาพื้นฐานหุ้น PTTEP จากเดิม 168 บาท เป็น 175 บาท โดยคงคำแนะนำ “ซื้อ”
เช่นเดียวกันกับ บล. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ที่ได้ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายหุ้น PTTEP จาก 165 บาท เป็น 182 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ” เนื่องจากการปรับเพิ่มราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ย ปรับเพิ่มปริมาณขาย และปรับลดอัตราภาษีในระยะยาว นอกจากนี้ มองว่ามูลค่าหุ้น PTTEP ยังไม่แพง ด้วย P/B 1.3 เท่า เทียบกับ ROE 13-14% และอัตราเงินปันผล 5.8%
ทั้งนี้ PTTEP ถือเป็นเรือธงในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ของกลุ่มปตท. โดยบริษัทมีเป้าหมายสำคัญในการสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืน จากภายในสู่ภายนอก (From We to World) และสนับสนุนเป้าหมายด้าน การพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (UN SDGs) ที่คำนึงผลประโยชน์ร่วมกันของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม กลยุทธ์ของ PTTEP จึงมุ่งเน้นการสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงาน รับมือกับวิกฤต และการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ควบคู่ไปกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ผ่าน 3 แนวทางหลัก ดังนี้
1. การขับเคลื่อนและเพิ่มมูลค่าธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม (Drive Value)
2. การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Decarbonize)
3. การเติบโตในธุรกิจใหม่ (Diversify)
สำหรับแนวโน้มธุรกิจในครึ่งหลังของปี 2566 PTTEP คาดการณ์ว่าอุปทานน้ำมันดิบจะตึงตัวเล็กน้อย แต่ตลาดยังมีความกังวลด้านเศรษฐกิจเป็นปัจจัยสำคัญ ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบดูไบเคลื่อนไหวในกรอบราคา 70-80 เหรียญต่อบาร์เรล แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์ต่างๆ ต่อไป เช่น ตัวเลขเศรษฐกิจ การปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลาง นโยบายของกลุ่ม OPEC+ และรัสเซีย แผนการใช้น้ำมันดิบจากคลังสำรองน้ำมันดิบทางยุทธศาสตร์ และสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนที่ยังคงยืดเยื้อ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ผู้ประกันตนรู้หรือยัง!! กองทุนประกันสังคมถือหุ้น 73 ตัว ลงทุนอะไรบ้าง
- เจาะหุ้น SAV หุ้นสนามบินกัมพูชา หวังโตตามรอย AOT
- เช็กเลย!! หุ้นที่ลงแรงหลังเลือกตั้ง รีบาวด์กลับมาแล้วหรือยัง?
