Stock

เกิดอะไรขึ้น ทำไม ‘JMART’ โดนเทกระจาด

เกิดอะไรขึ้นทำไม “JMART” จึงโดนเทกระจาด จนสร้างความกังวลต่อนักลงทุน แต่กลุ่มบริษัทขอให้ความมั่นใจว่าในระยะยาวกลุ่มบริษัทมี Ecosystem ที่แข็งแกร่งและเติบโตอย่างยั่งยืนได้ 

หุ้นตระกูล J ที่นำทีมโดย JMART, JMT, J, SINGER และ SGC ถูกกระหน่ำขายออกมาอย่างต่อเนื่อง หลังในช่วงวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา มีกระแสข่าวลือออกมาว่าหุ้นกลุ่มเจมาร์ทจะโดนตรวจสอบการซื้อขายอย่างเข้มงวด ซึ่งเป็นผลพวกสืบเนื่องมาจากกรณีที่ ขณะนี้มีหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ หลายตัวประสบปัญหาด้านหลักธรรมาภิบาลต่อนักลงทุน

อย่างไรก็ดี ทันทีที่มีข่าวสะพัดออกมา ทางผู้บริหารของ JMART หรือ บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ก็ออกมาชี้แจงโดยปฏิเสธข้อมูลตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อออนไลน์ว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง และไม่ใช่การประกาศอย่างเป็นทางการจากตลาดหลักทรัพย์ฯ พร้อมยืนยันว่ากลุ่มเจมาร์ท ให้ความสำคัญในการบริหารงานบนหลักธรรมาภิบาล และยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโต

สำหรับราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลง เป็นผลจากปัจจัยภายนอกกระทบ จนสร้างความกังวลต่อนักลงทุน แต่กลุ่มบริษัทยังขอให้ความมั่นใจว่าในระยะยาวกลุ่มบริษัทมี Ecosystem ที่แข็งแกร่งและเติบโตอย่างยั่งยืนได้  จะพิสูจน์ด้วยผลงานที่กลับมาฟื้นตัว หลังมีการปรับโครงสร้างกลุ่มบริษัทในช่วงที่ผ่านมา

โดยเจมาร์ทได้ปรึกษาในประเด็นดังกล่าว กับทางตลาดหลักทรัพย์ฯ เรียบร้อยแล้ว และได้ส่งสารสนเทศเพื่อชี้แจงและปฏิเสธข่าวลือ  หากมีการพูดถึงในประเด็นที่ไม่เป็นความจริงที่ปรากฏตามสื่อสังคมออนไลน์หรือสื่อต่างๆ โดยบริษัทจะดำเนินการเพื่อรักษาองค์กรที่ดำเนินมากว่า 35 ปี และเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ มาแล้ว 14 ปี อยู่บนความถูกต้อง และตรวจสอบได้

JMART

ความเคลื่อนไหวของหุ้นกลุ่มเจมาร์ทตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา (Year to Date ณ วันที่ 26 มิถุนายน 2566) ถือว่าถูกเทขายหนัก มูลค่าหายไปกว่าแสนล้านบาท ดังนี้
– หุ้น JMART หรือ บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ปรับลดลง 68.05%
– หุ้น JMT หรือ บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) ปรับลดลง  50.37%
– หุ้น J หรือ บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) ปรับลดลง 37.43%
– หุ้น SINGER หรือ บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ปรับลดลง  71.05%
– หุ้น SGC หรือ บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ปรับลดลง  70.13%

หากเราลองไล่เลียงประเด็นปัญหา จะพบว่าในปีนี้หุ้นตระกูล J เจอข่าวร้ายมากระทบอยู่ตลอด เริ่มตั้งแต่ในเดือนกุมภาพันธ์ “อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JMART โดน Margin Call ซึ่งเป็นการกู้เงินจากบริษัทหลักทรัพย์ โดยเอาหุ้นตัวเองเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่ว่าหุ้นตกลงมาจนถึงจุดที่โดนบังคับขาย

JMART

ทำให้ คุณอดิศักดิ์ จำเป็นต้องหาสถาบันมารับซื้อหุ้น big lot แทน เพื่อไม่ให้โดนบังคับขายในตลาดด้วยปริมาณที่มาก แต่ท้ายสุดเมื่อตลาดรับรู้เรื่องดังกล่าว ราคาหุ้นทั้งกลุ่มได้ร่วงลงอย่างหนัก มูลค่าหายไป 1 ใน 3 ภายในเดือนเดียวอยู่ดี

กระทั่งล่าสุดกับข่าวลือว่าจะถูกตรวจสอบการซื้อขายหุ้นอย่างเข้มงวด ทีนี้เลยมีการคาดการณ์กันว่าทั้ง JMT และ JMART ที่มีมูลค่าติดอันดับใน SET50 พอโดนนักลงทุนสถาบันปรับลดพอร์ตแบบนี้ ก็มีโอกาสสูงที่จะถูกถอดออกจากดัชนีดังกล่าว

อย่างไรก็ดี ในแง่พื้นฐานธุรกิจของกลุ่ม JMART ถือว่าไม่ได้เลวร้ายอะไร สิ่งที่น่ากังวลจะมีเพียงกำไรของกลุ่มที่ปรับลดลง เนื่องจาก SINGER ที่เจอ NPL พุ่งขึ้นเยอะเพราะสินเชื่อเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น นักลงทุนควรตัดสินใจลงทุนด้วยความระมัดระวัง และติดตามข่าวสารด้านการลงทุนอย่างใกล้ชิดต่อไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน