Stock

‘ดาวโจนส์’ ปิดตลาดพุ่งเกิน 100 จุด รับข้อมูลแรงงาน หนุนเฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ย

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (8 มิ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ปิดในแดนบวก หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานสูงกว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐเริ่มคลายความร้อนแรง และอาจเป็นปัจจัยชะลอการขึ้นดอกเบี้ย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 33,833.61 จุด เพิ่มขึ้น 168.59 จุด หรือ +0.50% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,293.93 จุด เพิ่มขึ้น 26.41 จุด หรือ +0.62% และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 13,238.52 จุด พุ่งขึ้น 133.63 จุด หรือ +1.02%

ดาวโจนส์

กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 28,000 ราย สู่ระดับ 261,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 235,000 ราย

นักวิเคราะห์ชี้ว่า ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐเริ่มคลายความร้อนแรง และได้ฉุดอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ซึ่งเป็นมาตรวัดแนวโน้มการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ร่วงลงสู่ระดับ 4.51% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์

นอกจากนี้ ยังช่วยให้ดัชนี CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตลาดมีความผันผวนอย่างมาก อันเนื่องมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามธนาคารกลางแคนาดาและออสเตรเลีย

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 73% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 13-14 มิถุนายนนี้ และให้น้ำหนักเพียง 29.9% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25%

อย่างไรก็ดี นักลงทุนให้น้ำหนัก 50% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนกรกฎาคม

นักลงทุน ยังจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนพฤษภาคม ในวันที่ 13 มิถุนายน ก่อนที่เฟดจะประกาศผลการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 14 มิถุนายน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI ทั่วไปและดัชนี CPI พื้นฐานจะชะลอตัวลง แต่ก็ยังสูงกว่าเป้าหมายที่ระดับ 2% ของเฟด

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo