Stock

‘AWC’ ไตรมาสแรกฉลุย คว้ารายได้ 4,785 ล้านบาท ท่องเที่ยวฟื้น-ห้องพักรายได้เพิ่ม

“AWC” เปิดผลประกอบการไตรมาสแรก คว้ารายได้ 4,785 ล้านบาท เฉพาะธุรกิจโรงแรมทำรายได้ 4,152 บาท ผลจากท่องเที่ยวฟื้นตัว รายได้ห้องพักเฉลี่ยต่อห้องพักเพิ่มขึ้น 17% จากช่วงก่อนโควิด 

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2566 ตามงบการเงินรวมมูลค่ายุติธรรม มีรายได้รวมกว่า 4,785 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

AWC

ขณะที่กำไรจากการดำเนินงาน (EBITDA) ในไตรมาส 1/2566 อยู่ที่กว่า 2,572 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นผลจากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องของกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ ในทุกเซ็กเมนต์ ซึ่งสามารถสร้างรายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPAR) ที่ 4,152 บาท สูงกว่าปี 2562 ก่อนสถานการณ์โควิด 17%

โดยเฉพาะโรงแรมนอกกรุงเทพฯ และรีสอร์ท ระดับลักซ์ซูรี ที่มีอัตราการเข้าพักสูงโดดเด่น สอดรับการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงมีจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่เข้ามาใช้บริการในกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ ของบริษัทฯ เป็นจำนวนมาก

ในส่วนของกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,422 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 100.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และยังสูงกว่าปี 2562 ก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 อีกด้วย

AWC ยังคงมุ่งพัฒนาทรัพย์สินคุณภาพ ให้เป็นทรัพย์สินดำเนินงาน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการสร้างกำไรจากการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 1/2566 บริษัทฯ มีมูลค่าทรัพย์สินดำเนินงานรวมกว่า 119,859 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36,548 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2562 คิดเป็น 43.9%

Khun Wallapa Traisorat 2
วัลลภา ไตรโสรัส

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีแผนพัฒนาโครงการต่าง ๆ เพื่อสร้างกระแสเงินสดในระยะกลางอย่างแข็งแกร่ง พร้อมเข้าลงทุนทรัพย์สินในสัญญาให้สิทธิ (ROFR) จากกลุ่มทีซีซี และโอกาสการลงทุนทรัพย์สินคุณภาพอื่น ๆ ในระยะยาว

สำหรับผลประกอบการที่เติบโตก้าวกระโดดนี้ มาจากการการดำเนินงานตามกลยุทธ์ GROWTH-LED ผ่านการพัฒนาโครงการทรัพย์สินคุณภาพ ให้เป็นทรัพย์สินดำเนินงาน โดยมีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 36,548 ล้านบาท เมื่อเทียบกับก่อนสถานการณ์โควิด-19

นอกจากนี้ ยังสร้างกระแสเงินสดเติบโต พร้อมเร่งสร้างการเติบโตของอัตราผลตอบแทนด้วยการพัฒนาทรัพย์สิน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย รวมถึงการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ

เปิดผลประกอบการแต่ละกลุ่มธุรกิจในเครือ

  • กลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ

บริษัทฯ เติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องในทุกเซ็กเมนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มรีสอร์ท ระดับลักซ์ซูรี และโรงแรมอื่น ๆ นอกกรุงเทพฯ ซึ่งสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีศักยภาพ

The Crystal Grill House

เมื่อสอดรับกับมาตรการการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ทำให้มีดีมานด์การท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่สูงขึ้นอย่างเด่นชัด ส่งผลให้รายได้เฉลี่ยต่อห้องพักอยู่ที่ 4,152 บาท ซึ่งสูงกว่าช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19 ในปี 2562 ที่เท่ากับ 3,549 บาท หรือโตขึ้น 17%

ในไตรมาส 1/2566 กลุ่มธุรกิจโรงแรมมีรายได้ 2,743 ล้านบาท คิดเป็นกำไรจากการดำเนินงาน 1,091 ล้านบาท ซึ่งเติบโต 28.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

ปัจจุบัน AWC มีจำนวนห้องพักรวม 5,588 ห้อง เพิ่มขึ้น 63% เทียบกับก่อนสถานการณ์โควิด-19 รวมทั้งภายในปีนี้ ยังมีแผนเดินหน้าเพิ่มพอร์ตคุณภาพในกลุ่มโรงแรมและการรีแบรนด์โรงแรม โดยตั้งเป้าเพิ่มจำนวนโรงแรมจาก 20 โรงแรมในปี 2565 เป็น 22 โรงแรม ในปี 2566 รวม 6,036 ห้อง

  • กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ 

กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อประกอบกิจการค้า (Retail and Wholesale) มีการเติบโตต่อเนื่องของผู้เช่า ซึ่งได้แรงสนับสนุนจากผู้บริโภค และนักท่องเที่ยว ออกมาจับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มศูนย์การค้าเพื่อการท่องเที่ยว ส่งผลให้รายได้เติบโตมากกว่า 114% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

THE EMPIRE

 

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งพัฒนาโครงการต่างๆ เพื่อให้สอดรับกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของกลุ่มผู้บริโภคที่หลากหลาย อาทิ การเพิ่มแม่เหล็กใหม่ ๆ ในโครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น การเปิดตัว THE PANTIP LIFESTYLE HUB ที่เชียงใหม่ และเปิดโครงการ AEC FOOD WHOLESALE PRATUNAM เป็นต้น

ขณะที่ธุรกิจอาคารสำนักงาน ยังคงสร้างกระแสเงินสดให้แก่บริษัทอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาสที่ผ่านมา AWC ได้เปิดตัว Co-Living Collective: Empower Future ที่อาคาร เอ็มไพร์ เพื่อตอบโจทย์ทั้งด้านการทำงานและไลฟ์สไตล์ในที่เดียว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo