เปิดไทม์ไลน์การบินไทย ลุ้นกลับเข้าซื้อขายหุ้นในตลาดเร็วกว่าเดิม เตรียมหารือร่วมที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อหาข้อสรุป
การบินไทย สายการบินแห่งชาติ หลังจากโดนระงับการซื้อขายมาตั้งแต่ปี 2564 เพราะผลประกอบการที่ย่ำแย่ หนี้สินมีมูลค่ามหาศาลเกินกว่าส่วนของผู้ถือหุ้นไปมาก จนบริษัทต้องดำเนินการฟื้นฟูกิจการ ด้วยแนวทางการแก้ไข เช่น การเพิ่มทุน การแปลงหนี้เป็นทุน และทำแผนปฏิรูปธุรกิจ
อัปเดตล่าสุดทางการบินไทยเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการเป็นที่เรียบร้อย ข้อมูลจากงานแถลงผลประกอบการประจำปี 2565 ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารชี้แจงว่าแนวโน้มธุรกิจนั้นปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าหุ้น THAI จะสามารถกลับเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ประมาณปลายปี 2567 เร็วกว่าแผนเดิมที่วางไว้ช่วงต้นปี 2568
สรุปปัจจัยบวก 3 ประการหนุนการบินไทย
ประการแรก… อุตสาหกรรมการบินที่สดใส
ในปี 2565 แนวโน้มธุรกิจการบินดีขึ้นชัดเจน ทั้งปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (ASK) เพิ่มขึ้น 243% ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (RPK) เพิ่มขึ้น 1,118% อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ย 67.9% มีจำนวนผู้โดยสารที่ทำการขนส่งรวมทั้งสิ้น 9.01 ล้านคน เพิ่มขึ้น 449% มีปริมาณการผลิตด้านการขนส่งสินค้า (ADTK) สูงกว่าปีก่อน 249% ปริมาณการขนส่งสินค้า (RFTK) สูงกว่าปีก่อน 134% และอัตราส่วนการขนส่งสินค้า (Freight Load Factor) เฉลี่ยเท่ากับ 63.1%
ปัจจัยบวกมาจากการเดินทางและการท่องเที่ยวที่มีการฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงบริษัทยังสามารถบริหารจัดการควบคุมต้นทุน และลดค่าใช้จ่ายลงได้ในระดับที่ต่ำมาก จากแผนการดำเนินการปรับโครงสร้างองค์กรในหลายด้าน
ซื้อขายหุ้นในตลาดเร็วกว่าเดิม
ประการสอง… EBITDA ทะลุ 2 หมื่นล้านแล้ว
บริษัทสามารถทำกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ในรอบ 12 เดือน (กุมภาพันธ์ 2565 – มกราคม 2566) ได้มากกว่า 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นหนึ่งในเงื่อนไขข้อสำคัญที่กำหนดไว้ในการยื่นขอออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ และถือว่าบริษัททำได้เร็วกว่า 2 ไตรมาสของแผนที่กำหนดไว้ แต่อย่างไรก็ดี บริษัทยังขาดทุนสุทธิ 252 ล้านบาท แต่ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีกว่าประมาณการในแผนฟื้นฟูกิจการ
แนวโน้มในปี 2566 คาดมีจำนวนผู้โดยสาร 12 ล้านคน หลังกลับมาทำการบินได้ 70-80% ของปี 2562 สะท้อนว่าธุรกิจฟื้นตัวชัดเจน อีกทั้งปีนี้มีแผนจะเพิ่มฝูงบินเป็น 71 ลำภาย จากปีก่อนมีจำนวน 64 ลำ โดยจะเน้นทำการบินในเส้นทางที่ทำกำไรเป็นหลัก ได้แก่ ทุกเมืองหลักในเส้นทางบินในยุโรป รวมถึงเส้นทางบินไปออสเตรเลีย ตลอดจนเพิ่มความถี่การบินมากขึ้นในประเทศญี่ปุ่น เกาหลี จีน และอินเดีย ซึ่งมีดีมานด์สูง
ประการสุดท้าย… จ่อยุบไทยสมายล์ เพิ่มความคล่องตัว
หนึ่งในแผนสำคัญของการปรับโครงสร้างธุรกิจ คือ การยุบ “ไทยสมายล์” รวมกับ “การบินไทย” เพื่อให้เหลือแบรนด์การบินไทยเพียงแบรนด์เดียวในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งจะทำให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารจัดการและลดต้นทุน ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาข้อดีข้อเสีย คาดจะได้ข้อสรุปไม่เกิน 2 เดือนจากนี้
หากได้รับความเห็นชอบ จะช่วยให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารทรัพย์สินและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เครื่องบินมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนต่อหน่วยลงได้ประมาณ 30% ส่งผลให้การดำเนินงานในปีนี้มีโอกาสพลิกกลับมามีกำไรได้
ทั้งนี้ แผนการกลับเข้าเทรดในตลาดหุ้นของ THAI ต้องให้ที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) เป็นผู้ทำแผนการปรับโครงสร้างทุนตามแผนฟื้นฟูกิจการ โดยจะเปิดให้เจ้าหนี้หุ้นกู้และสถาบันการเงินที่มีมูลค่าหนี้รวมประมาณ 1 แสนล้านบาท แปลงหนี้เป็นทุน โดยการขายหุ้นเพิ่มทุน คาดว่าจะมีข้อสรุปในกลางปีนี้
หลังออกจากแผนฟื้นฟูฯ บริษัทจะต้องยื่นแบบไฟลิ่งเพื่อขอนำหุ้นของการบินไทย กลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) บริษัทจะมีการหารือร่วมกับที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อหาข้อสรุปในเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง คาดว่าน่าจะสรุปความชัดเจนออกมาในช่วงกลางปีนี้เช่นกัน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘การบินไทย’ โชว์ไตรมาสแรกรายได้พุ่ง 4 หมื่นล้านบาท กำไร 1.25 หมื่นล้านบาท!
- เช็กเลย!! ‘การบินไทย’ ขยายอายุไมล์สะสม ‘รอยัล ออร์คิด พลัส’ ที่หมดอายุในปี 2566
- ‘การบินไทย’ ตัดเงินเดือน-พักงาน พนักงานต้อนรับ ไม่เก็บถาดอาหาร