Stock

เปิดกลยุทธ์การลงทุนหุ้นไทยเดือน พ.ค. มุมมองเชิงบวก พร้อมแนะ 12 หุ้นเด่นที่นี่!

“บล.กสิกรไทย” เปิดกลยุทธ์การลงทุนหุ้นไทยเดือนพฤษภาคม มุมมองเชิงบวก หลังเดือนเมษายนดิ่งแรง พร้อมแนะ 12 หุ้นเด่นประจำเดือนนี้

บล.กสิกรไทย เปิดกลยุทธ์การลงทุนเดือนพฤษภาคม ช่วงเวลาแห่งการทยอยสะสมหุ้น ผ่านเฟซบุ๊ก KSecurities ระบุว่า เรามีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นต่อตลาดหุ้นไทยหลังจากลดลง 5% ในเดือนเมษายน 2566 ทำให้ผลตอบแทนรวมอยู่ที่ 12% จากเป้าหมายของเราที่ 1,666 จุด โดยคาดการบริโภคและการลงทุนภายในประเทศจะดีขึ้นในปี 2566 จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว การจัดตั้งรัฐบาล และความตึงเครียดระหว่างสหรัฐ-จีน

หุ้นไทยเดือนพฤษภาคม

สำหรับหุ้นเด่นประจำเดือนของเรา ได้แก่ AEONTS, KTB, CPN, TRUE, SIRI, AMATA, CK, AOT, SNNP, PTTEP, SCGP, และ SHR

กลยุทธ์การลงทุน

กลับมามีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นต่อตลาดหุ้นไทย หลังจากที่ลดลง 5% ในเดือนเมษายน 2566 ขณะนี้ SET Index ให้ผลตอบแทนรวม 12% จากเป้าหมายของเราที่ 1,666 จุด คำนวณบนกำไรต่อหุ้น (EPS) เฉลี่ยปี 2566-67 ที่ 108 บาท และ PER ล่วงหน้า 12 เดือนที่ 15.50 เท่า (+0.5SD) และรวมปันผลตอบแทนอีก 3% เราแนะนำกลยุทธ์ “การต่อรองราคา” ที่แนวรับสำคัญที่ 1,477-1,542 (ดูรายงานประจำเดือนล่าสุด “KS Strategy – Recession Stagflation หรือ Soft Landing?” ณ วันที่ 7 เม.ย. 2566)

หุ้นไทยเดือนพฤษภาคม

สำหรับหุ้นที่ถูกขายลงมาจนมี upside ที่น่าสนใจต่อราคาเป้าหมาย และแนวโน้มกำไรยังคงแข็งแกร่ง ภายใต้กรณีฐาน Soft Landing ของเรา เราคาดว่าดัชนี SET จะไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่ในปี 2566 จากการเติบโตของ GDP ทั่วโลกที่ราบรื่น อัตราเงินเฟ้อที่ลดลง (กระบวนการ disinflation ของเฟด) และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในครึ่งหลังของปี 2566 ส่วนชดเชยความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้นสามัญ (Equity Risk Premium) น่าจะเพิ่มขึ้นเมื่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรลดลง (อัตราปลอดความเสี่ยง) ทำให้ส่วนชดเชยความเสี่ยงเพิ่ม ประเทศไทยจะจัดการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 และมีความเป็นไปได้ 3 สถานการณ์ในการจัดตั้งรัฐบาลชุดต่อไป ได้แก่ แนวร่วมฝ่ายค้านหรือรัฐบาลชุดปัจจุบัน หรือทั้งสองประเภทคละกัน เราเชื่อว่าการมีผู้ชนะที่ชัดเจนจะเป็นผลการเลือกตั้งที่ดีที่สุด

สำหรับ SET โดย SET Index เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 6% หลังวันเลือกตั้ง 1 เดือนจากสถานการณ์ “รัฐบาลเข้มแข็ง” และให้ผลตอบแทนบวกลบคละกันกรณี “รัฐบาลผสม” กลุ่มการเงิน อสังหาฯ ธนาคาร ICT การพาณิชย์ สื่อ อาหารและเครื่องดื่ม เป็นกลุ่มที่มีผลประกอบการดีหลังจากที่พรรคเพื่อไทยได้รับชัยชนะในปี 2544 และ 2554

หุ้นไทยเดือนพฤษภาคม

ปัจจัยขับเคลื่อนเชิงบวกและความเสี่ยงที่สำคัญในเดือนพฤษภาคม 2566 ปัจจัยหนุนที่สำคัญของตลาดหุ้นไทยในเดือนพฤษภาคม 2566 ได้แก่

  1. การบริโภคภายในประเทศที่เติบโต ซึ่งนำโดยการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวและนโยบายแบบประชานิยมในระยะสั้นหลังการเลือกตั้ง
  2. การเลือกตั้งทั่วไปและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสหรัฐและจีน จะส่งผลดีต่อการลงทุนภาคเอกชนและภาครัฐ
  3. จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างมากจากไตรมาส 2/2566 เนื่องจากเที่ยวบินจากจีนที่เพิ่มขึ้น
  4. การจัดตั้งรัฐบาลที่ราบรื่น ปัจจัยเสี่ยงหลักในเดือนพฤษภาคม 2566 ได้แก่ 1) สถานการณ์ที่ลำบากของเฟด 2) การส่งออกของไทยชะลอตัวจากการระบายสต็อกและความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย 3) ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับจีน เสี่ยงที่จะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจโลก และ 4) ความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่

หุ้นไทยเดือนพฤษภาคม

ธีมการลงทุนทั้งหมด ได้แก่

  • หุ้นการบริโภคในประเทศ (AEONTS, KTB, CPN, TRUE, SIRI) คาดการบริโภคในประเทศเติบโตดีในปี 2566 ซึ่งส่งผลดีต่อหุ้นการบริโภคในประเทศ
  • หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการเลือกตั้งทั่วไปและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสหรัฐฯ-จีน (AMATA, CK) จะเป็นขาขึ้นสำหรับการลงทุนของภาคเอกชนและภาครัฐ
  • หุ้นการท่องเที่ยว (AOT, SNNP) คาดว่านักท่องเที่ยวจะเพิ่มเป็น 28.5 ล้านคนในปี 2566
  • หุ้นป้องกันความเสี่ยงจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น(PTTEP) เพื่อป้องกันกรณี Stagflation
  • หุ้นที่ได้ประโยชน์หลักจากราคาถ่านหินและก๊าซที่ลดลง (SCGP, SHR) SCGP และ SHR จะได้ประโยชน์จากราคาถ่านหิน (-49% YoY และ -6% YTD เป็น 183 ดอลลาร์สหรัฐฯ /ตัน) และราคาก๊าซ (-54% YoY และ -66% YTD เป็น 11.60 ดอลลาร์ฯ /MMBtu) ที่ลดลง

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK