Stock

หุ้นแบงก์ทรุดหนัก-กังวลขึ้นดอกเบี้ย ฉุด ‘ดาวโจนส์’ ปิดร่วงกว่า 500 จุด

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (9 มี.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ดิ่งแรงกว่า 500 จุด หลัง “หุ้นกลุ่มธนาคาร” ร่วงลงอย่างหนัก ประกอบกับความกังวลว่าข้อมูลแรงงานที่จะเปิดเผยในวันนี้ (10 มี.ค.) อาจหนุนให้ “ธนาคารกลางสหรัฐ” เร่งขึ้นดอกเบี้ย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 32,254.86 จุด ร่วงลง 543.54 จุด หรือ -1.66% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,918.32 จุด ลดลง 73.69 จุด หรือ -1.85% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 11,338.35 จุด ดิ่งลง 237.65 จุด หรือ -2.05%

ดาวโจนส์

ในช่วงแรกนั้น ตลาดดีดตัวขึ้น หลังสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งขึ้น 21,000 ราย มาอยู่ที่ 211,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงสุดในรอบ 10 สัปดาห์ และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 195,000 ราย ทำให้มีความหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ย

แต่ตลาดพลิกร่วงสู่แดนลบในเวลาต่อมา เนื่องจากมีแรงเทขายเข้ามาในหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากเอสวีบี ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (SVB Financial Group) ผู้ปล่อยกู้ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ประกาศขายหุ้นมูลค่า 1,750 ล้านดอลลาร์ เพราะมีปัญหาเกี่ยวกับกระแสเงินสดหมุนเวียน หลังยอดเงินฝากจากบรรดาสตาร์ทอัพลดลง ทั้งยังลดคาดการณ์รายได้ในปีงบการเงิน 2566

ข่าวดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้นเอสวีบีทรุดตัวลง 60% และยังได้ฉุดดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารดิ่งลง 4.1% โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ร่วงลง 2.06% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ดิ่งลง 6.18% หุ้นเจพีมอร์แกน ร่วงลง 5.41% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ร่วงลง 3.86% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ดิ่งลง 6.02%

หุ้นซิลเวอร์เกต แคปิตอล (Silvergate Capital) ซึ่งเป็นผู้ปล่อยสินเชื่อรายใหญ่ให้กับอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซี ทรุดตัวลง 42.16% หลังจากบริษัทประกาศยุติการดำเนินงาน และขายสินทรัพย์ของซิลเวอร์เกต แบงก์ (Silvergate Bank) เพื่อชำระหนี้

ดาวโจนส์

ทั้งนี้ ข่าวซิลเวอร์เกต แคปิตอล ยุติการดำเนินงานเป็นอีกหนึ่งในปัจจัยที่ฉุดดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคาร และยังส่งผลให้ราคาหุ้นกลุ่มธุรกิจบล็อกเชนดิ่งลงอย่างหนักเช่นกัน โดยหุ้นคอยน์เบส ร่วงลง 7.84% หุ้นมาราธอน ดิจิทัล ร่วงลง 10.84% หุ้นไรออท แพลตฟอร์มส์ ร่วงลง 12.22%

นักวิเคราะห์ชี้ว่า นักลงทุนมีความกังวลก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนกุมภาพันธ์ในวันนี้ โดยแม้มีการคาดการณ์ว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 205,000 ตำแหน่งในเดือนที่แล้ว แต่ก็คาดว่าตัวเลขค่าจ้างในเดือนกุมภาพันธ์ จะพุ่งขึ้น 4.7%  ซึ่งสูงกว่าในเดือนมกราคม ที่เพิ่มขึ้น 4.4% และอาจเป็นปัจจัยกดดันให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุก

ข้อมูลจาก FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 60% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.50% มาอยู่ที่ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 21-22 มีนาคมนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจากระดับ 31% ก่อนที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดจะแถลงต่อสภาคองเกรส เมื่อวันอังคาร และวันพุธที่ผ่านมา

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo