JAS เปิดผลประกอบการปี 2565 ขาดทุนพุ่ง 2,029 ล้าน หลังตลาดอินเทอร์เน็ตเร็วสูง เน็ตทีวีรายได้ลด ตลาดแข่งดุ ต้นทุนขายเพิ่ม ตั้งสำรอง-ต้นทุนเหมืองขุดบิตคอยน์มากขึ้น
บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS แจ้งผลประกอบการปี 2565 ขาดทุนสุทธิ 2,028.59 ล้านบาท เทียบกับปี 2564 ที่ขาดทุน 1,500.70 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิเพิ่มขึ้น 528 ล้านบาท หรือ 35%
ทั้งนี้ รายได้รวมจากการดำเนินงานในปี 2565 อยู่ที่ 20,281ล้านบาท ลดลง 90 ล้านบาท จากสิ้นปี 2564 ซึ่งอยู่ที่ 20,371 ล้านบาท หรือลดลง 0.4% โดยมีรายได้จากส่วนงานให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และอินเทอร์เน็ตทีวี ปี 2565 จำนวน 18,028 ล้านบาท ลดลง 5 ล้านบาท คิดเป็น 0.03%
สำหรับรายได้จากส่วนงานให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และอินเทอร์เน็ตทีวีที่ลดลง เป็นผลมาจากสภาวะการแข่งขันในธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่รุนแรงมากขึ้น โดยผู้ให้บริการในธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงต่างใช้กลยุทธ์เสนอขายแพคเกจเริ่มต้นในราคาที่ถูกลง เพื่อดึงดูดลูกค้า จึงส่งผลกระทบต่อรายได้และ ARPU ของ TTTBB
จนภึงสิ้นปี 2565 มีจำนวนผู้ใช้บริการรวม 3.7 ล้านราย เมื่อหักจำนวนผู้ใช้บริการ ภาคองค์กร ลูกค้า WIFI กลุ่ม Barter กลุ่มที่ใช้ในกิจการภายใน กลุ่มบริการเสริมอื่น และกลุ่มลูกค้าที่มีหนี้ค้างออก จะมียอดผู้ใช้บริการสำหรับลูกค้าทั่วไปในส่วนที่เป็น Fixed Broadband และที่สามารถเก็บเงินได้ ประมาณ 2.34 ล้านราย คิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อราย (ARPU) ในไตรมาส 4/65 อยู่ที่ 577 บาทต่อเดือน ลดลงจากรายได้เฉลี่ยต่อราย ในปี 2565 อยู่ที่ 587 บาทต่อเดือน
ส่วนรายได้จากส่วนงานสินทรัพย์ดิจิตัลและเทคโนโลยีโซลูชั่น ปี 2565 จำนวน 1,533 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 402 ล้านบาท คิดเป็น 36% เมื่อเทียบปี 2564
ขณะที่รายได้จากส่วนงานสินทรัพย์ดิจิตัล และเทคโนโลยีโซลูชั่นที่เพิ่มขึ้น หลัก ๆ เป็นผลมาจากรายได้จากการให้บริการวงจรเช่าในประเทศ และค่าบริการวงจรเช่าส่วนบุคคลระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น
ด้านรายได้จากธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์ ในปี 2565 มีเหรียญบิตคอยน์รวมทั้งสิ้น 179.32695842 เหรียญ เพิ่มขึ้น 160.14319404 เหรียญบิตคอยน์คิดเป็นร้อยละ 1,669.57
สำหรับรายได้ส่วนงานอื่นและรายได้อื่น ปี 2565 จำนวน 720 ล้านบาท ลดลง 487 ล้านบาท คิดเป็น 40% เมื่อเทียบปีก่อน โดยรวมการบันทึกรายได้จากการกลับรายการหนี้สินของ TTTBB จำนวน 81 ล้านบาท และบันทึกกำไรจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนสุทธิของบริษัทย่อย จำนวน 33 ล้านบาท
ในส่วนของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ประกอบด้วยต้นทุนขายและบริการ และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร โดยค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานปี 2565 อยู่ที่ 19,105 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 930 ล้านบาท หรือเพิ่ม 5%เมื่อเทียบกับปี 2564 ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอยู่ที่ 18,175 ล้านบาท
โดยมีต้นทุนขายและบริการ ปี 2565 จำนวน 14,606 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,123 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับปี2564 รายละเอียดของต้นทุนขายและบริการ ดังนี้
1. ต้นทุนขายและบริการที่เพิ่มขึ้น หลัก ๆ เป็นผลมาจากต้นทุนธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์ ค่าเช่าวงจรเชื่อมต่อค่าคอนเทนต์ ฯลฯ เพิ่มขึ้น รวมถึงมีการบันทึกประมาณการค่าเสียหายจากคดีพิพาทของ TTTBB กับหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ในปี 2565 จำนวน 231 ล้านบาท
2. ต้นทุนค่าเช่าในส่วนสัญญาประกันรายได้ (สัญญาเช่า 20%) ที่เพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากรายการปรับปรุงสำรองประกันรายได้ค่าเช่า OFC ของ JASIF จากการเปลี่ยนแปลงสมมติฐานอัตราคิดลดและอัตราการเพิ่มของค่าเช่าซึ่งมีผลกระทบต่อการบันทึกต้นทุนค่าเช่า OFC สำหรับสำรองประกันรายได้ค่าเช่าในปี 2565
โดยรวมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารปี 2565 จำนวน 4,499 ล้านบาท ลดลง 193 ล้านบาท หรือลดลง 4% เมื่อเทียบกับปี 2564
นอกจากนี้ ในปี 2565 มีการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน จำนวน 207 ล้านบาทตามนโยบายการตั้งสำรองตามอายุหนี้ของลูกหนี้ที่ค้างชำระของ TTTBB
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘AIS’ ลั่นเดินหน้าซื้อ ‘3BB’ ลงทุนในกองทุน JASIF ต่อยอดเน็ตบ้าน คาดจบดีลต้นปี 66
- ส่องก้าวต่อไปของ JAS หลัง AIS ซื้อ 3BB กำเงินสดในมือกว่า 3 หมื่นล้านบาท!!
- ‘GULF-AIS’ ทำเอ็มโอยู ติดตั้ง ‘ระบบพลังงานแสงอาทิตย์’ สถานีฐาน-เสาส่งสัญญาณทั่วประเทศ มุ่งพัฒนายั่งยืน
