Environmental Sustainability

‘GULF-AIS’ ทำเอ็มโอยู ติดตั้ง ‘ระบบพลังงานแสงอาทิตย์’ สถานีฐาน-เสาส่งสัญญาณทั่วประเทศ มุ่งพัฒนายั่งยืน

GULF และ AIS ทำเอ็มโอยู ติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์สถานีฐาน และเสาส่งสัญญาณทั่วประเทศกว่า 100 MW ตอบโจทย์เป้าหมายพัฒนาสู่ความยั่งยืนของทั้ง 2 บริษัท พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจด้วย

เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF และ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เนทเวิร์ค จำกัด ในเครือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) เพี่อร่วมวางแผนพัฒนาโครงการติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับสถานีฐาน และเสาส่งสัญญาณเครือข่าย AIS ทั่วประเทศ

GULF

นายกิตติ งามเจตนรมย์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยี AIS กล่าวว่า สำหรับ AIS นโยบายการพัฒนาด้านความยั่งยืนเป็นภารกิจของทุกคนในองค์กรที่มีส่วนร่วมภายใต้บทบาทความรับผิดชอบในแต่ละส่วนงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริหารจัดการโครงข่าย และบริการดิจิทัล ที่บริษัทยังคงมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพบริการเพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าทุกกลุ่ม

พร้อมกันนี้ บริษัทยังยึดมั่นแนวทางการดำเนินธุรกิจตามกรอบการพัฒนาอย่างยั่งยืน ครอบคลุมทั้งการขับเคลื่อนดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ (Economy) การสร้างดิจิทัลเพื่อสังคม (Social) หรือแม้แต่การยืนหยัดเพื่อสิ่งแวดล้อม (Environment) ซึ่งมีแผนการทำงานที่ชัดเจน ในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จากกระบวนการดำเนินธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ

อาทิ การติดตั้งอุปกรณ์สถานีฐานที่สามารถใช้งานร่วมกันได้หลายเทคโนโลยีทั้ง 3G 4G 5G และปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องจ่ายกระแสไฟฟ้า ขยายระบบ Virtual Machine Server ที่ช่วยประหยัดพลังงาน

การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้กับ GULF ที่มีความพร้อมด้านธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ จะเข้ามาช่วยบริษัทในการวางแผนการเพื่อเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทางเลือกให้ได้มากที่สุด ผ่านการ ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บริเวณสถานีฐาน ศูนย์ข้อมูลคอมพิวเตอร์ และชุมสายสถานีฐาน

ที่ผ่านมา AIS ได้ดำเนินการติดตั้งระบบโซลาร์บนสถานีฐาน ศููนย์ข้อมููลคอมพิวเตอร์และอาคารชุมสายไปแล้ว 5,561 สถานี สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 8,139 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO2e)

GULF
กิตติ งามเจตนรมย์

จากความร่วมมือครั้งนี้ บริษัทมีแผนที่จะติดตั้งให้ครบทั้ง 30,000 สถานี ภายใน 3-5 ปี ซึ่งคิดเป็นกำลังผลิตติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์รวมทั้งสิ้นกว่า 100 เมกะวัตต์ อีกทั้งยังมีเป้าหมายในการหาพันธมิตร ที่จะเข้ามาช่วยผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนแหล่งอื่น นอกเหนือจากโครงการโซลาร์สถานีฐาน เพื่อเร่งเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนให้เกิดขึ้นตามแผนการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของ AIS ต่อไป

ทางด้าน นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน GULF กล่าวว่า  บริษัทเล็งเห็นถึงบทบาทอันสำคัญของพลังงานหมุนเวียนในการขับเคลื่อนสังคมที่ยั่งยืนในอนาคต จึงได้ประกาศนโยบายไม่ลงทุนถ่านหิน (No Coal Policy) อีกทั้งตั้งเป้าหมาย เพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนให้เกิน 30% ของกำลังการผลิตติดตั้งรวมภายในปี 2573

ปัจจุบัน GULF ลงทุนในโครงการพลังงานหมุนเวียนทั้งใน และต่างประเทศแล้วทั้งสิ้นกว่า 1,000 เมกะวัตต์ และยังคงเพิ่มการลงทุนในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนอย่างต่อเนื่องในอีก 5-10 ปีข้างหน้า

การลงนามความร่วมมือระหว่าง GULF และ AIS ในครั้งนี้ จึงนับเป็นโอกาสอันดี ที่ทั้ง 2 บริษัทจะประสานความร่วมมือด้านพลังงานโดย GULF จะใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียน รวมถึงการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ภายใต้การบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยวางแผนโครงการให้กับ AIS

GULF
ยุพาพิน วังวิวัฒน์

รูปแบบโครงการจะรวมไปถึงสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว (Private PPA) ซึ่ง GULF เป็นผู้ผลิต และ AIS เป็นผู้รับซื้อพลังงานสะอาดแทนการลงทุนเอง เพื่อให้ AIS ได้ใช้ทั้งพลังงานสะอาดและลดต้นทุนค่าพลังงาน นับเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจ และตอบโจทย์ความยั่งยืนให้กับทั้งสองบริษัท

หากโครงการดังกล่าวดำเนินการแล้วเสร็จ AIS จะใช้พลังงานแสงอาทิตย์เฉพาะจากโครงการนี้กว่า 100 เมกะวัตต์ อีกทั้งยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกว่า 56,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO2e) ต่อปี ขณะที่ GULF สามารถขยายกำลังการผลิตพลังงานสะอาดจากโครงการดังกล่าวด้วยเช่นกัน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo