Stock

‘CPF’ โชว์กำไรปี 2565 ยังแกร่ง – พร้อมสยายปีกโตต่อเนื่อง

CPF กำไร ปี 2565 แกร่ง พร้อมสยายปีก “หยวนต้า” ประเมินรากฐานที่มั่นคง และแผนการขยายธุรกิจที่รัดกุม ทำให้มั่นในว่าปี 2566 บริษัทจะยังคงมีผลการดำเนินงานที่เติบโตแข็งแกร่งได้

วันนี้ขอหยิบข้อมูลผลประกอบการหุ้น CPF หรือ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) มาสรุปให้ทุกคนได้เห็นรายละเอียดกัน โดยปัจจุบัน CPF เป็นผู้นำในกลุ่มธุรกิจเกษตรและอุตสาหกรรมอาหารแบบครบวงจร ครอบคลุมทั้งหมู ไก่เนื้อ ไก่ไข่ เป็ด กุ้ง และปลา ประกอบด้วยกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์ กลุ่มธุรกิจฟาร์มเลี้ยงสัตว์ รวมทั้งกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเนื้อสัตว์และอาหารพร้อมรับประทาน

สำหรับในปี 2565 ทาง CPF รายงานยอดขายอยู่ที่ 614,197 ล้านบาท เติบโต 20% จากปีก่อน เป็นผลมาจากปริมาณการขายที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในหลายประเทศ รวมทั้งระดับราคาสินค้าที่อยู่ในระดับสูงกว่าปีก่อน โดยบริษัทได้มีการลงทุนและร่วมลงทุนใน 17 ประเทศ พร้อมส่งออกผลิตภัณฑ์จากประเทศไทยไปสู่ประเทศต่างๆ อีกกว่า 40 ประเทศทั่วโลก ทั้งนี้ สัดส่วนยอดขายในปี 2565 นั้นมาจากต่างประเทศ 63% และกิจการประเทศไทย 31% และเป็นยอดขายจากการส่งออก 6%

CPF สามารถทำกำไรสุทธิในปี 2565 ที่จำนวน 13,970 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 7% จากปีก่อน แต่หากหักกำไรจากการแลกเปลี่ยนเงินลงทุนด้วยหุ้นของ MAKRO  เป็นรายการพิเศษที่เกิดขึ้นในปี 2564 จำนวน 7,849 ล้านบาท จะทำให้กำไรก่อนรายการพิเศษในปี 2565 เพิ่มขึ้นกว่า 170% จากปีก่อน

CPF กำไร

CPF กำไร ปี 2565 แกร่ง

ผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นส่วนหนึ่งมาจากการให้ความสำคัญ ด้านมาตรฐานการควบคุมความปลอดภัยทางชีวภาพอย่างเคร่งครัด รวมถึงธุรกิจในไทยที่โดดเด่นภายใต้ภาวะ ที่อุตสาหกรรมเผชิญกับการระบาดของโรค ASF ในสุกร นอกจากนี้ CPF ปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับสังคมรูปแบบใหม่ โดยพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม และขยายช่องทางการขายให้หลากหลาย ส่งเสริมคู่ค้าในการปรับรูปแบบการขายเพื่อเพิ่มมูลค่าให้แก่สินค้าและสร้างคุณค่าร่วมไปด้วยกัน

 CPF กำไร

 

CPF กำไร จ่ายปันผลปี 2565 รวม 0.75 บาท

คณะกรรมการบริษัท ได้มีมติให้เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น เพื่อพิจารณาอนุมัติการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2565 ให้แก่ผู้ถือหุ้นรวมทั้งสิ้นในอัตราหุ้นละ 0.75 บาท อย่างไรก็ดี CPF ได้มีการจ่ายเงินปันผลครั้งแรกเป็นเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.40 บาท ไปแล้วเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2565

เท่ากับว่าจะเหลือเป็นเงินปันผลจ่ายครั้งที่สองจากผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง ในอัตราหุ้นละ 0.35 บาท โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 8 พฤษภาคม 2566 และจะมีกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 25 พฤษภาคม 2566 นี้ ภายหลังได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นแล้ว

นอกจากนี้ บทวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) คาดการณ์ว่าในปี 2566 หุ้น CPF จะจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่องที่ 0.82 บาทต่อหุ้น คิดเป็น Dividend Yield ราว 3.4% ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา CPF เป็นหนึ่งในหุ้นขนาดใหญ่ที่มีประวัติจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอปีละ 2 ครั้ง และติดอยู่ดัชนี SETHD อีกด้วย

CPF กำไร

มั่นใจปีนี้ยังแข็งแกร่ง

ด้านมุมมองของบริษัท มองว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้ จะยังมีความท้าทายอย่างต่อเนื่อง เช่น ผลกระทบจากโรคระบาดในคนและสัตว์ ผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างประเทศ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่เพิ่มขึ้น และสภาวะเศรษฐกิจที่มีสัญญาณถดถอยในหลายประเทศ

ดังนั้น จึงมีความระมัดระวังในการดำเนินธุรกิจและการลงทุนมากขึ้น แต่ด้วยรากฐานที่มั่นคงและแผนการขยายธุรกิจที่รัดกุม ทำให้มั่นในว่าปี 2566 บริษัทจะยังคงมีผลการดำเนินงานที่เติบโตแข็งแกร่งได้อย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบันหุ้น CPF เทรดอยู่ในระดับ P/E ที่ 10.96 เท่า P/BV ที่ 0.74 เท่า และอัตราเงินปันผลประมาณ 2.88% ถือว่าเป็นระดับราคาที่น่าสนใจ จากการที่หุ้นได้ปรับตัวลดลงมาโดยตลอดในช่วง 3 ปีนี้ ทว่าในปี 2566 ยังมีประเด็นบวกเรื่องของการซื้อหุ้นคืนที่จะสิ้นสุดในช่วงกลางปี บวกกับแนวโน้มกำไรที่น่าจะเติบโตต่อเนื่อง จากธุรกิจในต่างประเทศที่เริ่มเห็นการฟื้นตัวมากขึ้นเรื่อยๆ

 

อ่านข่าวเพิ่มเติม 

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน