Environmental Sustainability

‘ซีพีเอฟ’ ประกาศความสำเร็จยกเลิกใช้ถ่านหิน 100% กิจการในไทย เปิดโรดเแมปสู่ Net-Zero

“ซีพีเอฟ” เปิดโรดแมปเส้นทางขับเคลื่อนองค์กรสู่เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ พร้อมประกาศความสำเร็จ ยกเลิกการใช้ถ่านหิน 100 % สำหรับกิจการในไทย บรรลุตามเป้าหมาย Coal Free 2022 เดินหน้าสร้างความมั่นคงทางอาหาร

นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร นายพีรพงศ์ กรินชัย รองกรรมการผู้จัดการบริหาร และ นางกอบบุญ ศรีชัย ผู้บริหารสูงสุดสายงานกิจการองค์กรและลงทุนสัมพันธ์ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ  แถลงข่าวแผนการดำเนินงานของบริษัทฯ เพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net-Zero) พร้อมทั้งประกาศความสำเร็จตามเป้าหมาย Coal Free 2022 ณ อาคาร ซี.พี.ทาวเวอร์ สีลม

ซีพีเอฟ

นายประสิทธิ์ กล่าวว่า การขับเคลื่อนองค์กรสู่ Net-Zero เป็นเป้าหมายสำคัญของบริษัท ภายใต้กลยุทธ์ความยั่งยืนของซีพีเอฟ ที่ยึดตามแนวทางด้านความยั่งยืนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ และเป้าหมายความยั่งยืนของสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals:SDGs) ซึ่งบริษัทกำหนดวิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ผลิตอาหารอย่างรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม

รวมไปถึงการให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม เพื่อตอบโจทย์ Food Safety การผลิตอาหารที่ดีต่อร่างกาย มีคุณค่าโภชนาการ เสริมสร้างสุขภาพที่ดี ให้คำหนึ่งคำที่ทานมีคุณค่ามากขึ้น ได้ความอร่อย และมีความหลากหลายมากขึ้น รวมทั้ง Food Security เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร

ซีพีเอฟ

นอกจากนี้ ในฐานะผู้นำธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม และอาหารครบวงจร ตระหนักถึงภารกิจของการเป็นบริษัทผู้ผลิตอาหารชั้นนำของโลก ที่มุ่งมั่นดูแลการผลิตอาหารให้เพียงพอรองรับความต้องการของผู้บริโภค ทั้งในสถานการณ์ปกติ และภาวะวิกฤติ

พร้อมทั้งมีส่วนร่วมสนับสนุนเป้าหมายของโลก ในการบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change)โดยได้ประกาศเป้าหมายสู่ Net-Zero ในปี 2050 (พ.ศ.2593) และในปีที่ผ่านมา บริษัทบรรลุเป้าหมายยกเลิกการใช้ถ่านหิน 100% สำหรับกิจการในไทย ตามเป้าหมาย Coal Free 2022 ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และมุ่งสู่การเปลี่่ยนผ่านสู่การใช้พลังงานหมุนเวียน

ด้านนายพีรพงศ์ กล่าวว่า ความสำเร็จในการยกเลิกใช้ถ่านหิน 100% สำหรับกิจการในประเทศไทย ส่งผลให้สัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนของบริษัทฯอยู่ที่ประมาณ 30 % ของการใช้พลังงานทั้งหมด นับเป็นบริษัทอันดับต้น ๆ ในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารที่มีสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนสูงที่สุด ประกอบด้วย พลังงานจากก๊าซชีวภาพ30 % พลังงานชีวมวล 68 % และพลังงานแสงอาทิตย์ 2% ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 600,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า และในอนาคต

ซีพีเอฟ

ซีพีเอฟ มีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนเป็น 50 % ภายในปี 2030 และ เพิ่มเป็น100 % ในปี 2050 นอกจากนี้ การบรรลุเป้าหมายในการยกเลิกการใช้ถ่านหินสำหรับกิจการในประเทศไทย จะเป็นต้นแบบให้กับกิจการในต่างประเทศด้วย

นางกอบบุญ กล่าวเพิ่มเติมถึง นอกจากซีพีเอฟมุ่งมั่นในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางตรงแล้ว ยังดำเนินโครงการด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งส่งผลทางอ้อมจากการกักเก็บคาร์บอนของต้นไม้ โดยบริษัทดำเนินโครงการอนุรักษ์ และฟื้นฟูป่าต้นน้ำ และป่าชายเลน ภายใต้แนวคิด “ความมั่นคงทางอาหาร จากภูผาสู่ป่าชายเลน”ได้แก่ โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำ “ซีพีเอฟ รักษ์นิเวศ ลุ่มน้ำป่าสัก เขาพระยาเดินธง จังหวัดลพบุรี” นอกจากจะช่วยปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพแล้ว ยังเป็นโครงการที่ดูแลคุณภาพของน้ำและชุมชน

นอกจากนี้ ยังมีโครงการ “ซีพีเอฟ ปลูก ปัน ป้อง ป่าชายเลน” โดยต่อยอดสู่การเป็นเส้นทางท่องเที่ยวเชิงนิเวศวิถีชุมชน ช่วยสร้างงาน และสร้างรายได้ให้กับชุมชน ซึ่งปัจจุบันทั้ง 2 โครงการร่วมอนุรักษ์ และฟื้นฟูป่าไปแล้ว รวม 14,000 ไร่ และมีแผนเพิ่มพื้นที่สีเขียวอย่างน้อย 20,000 ไร่ ในปี 2030

บริษัทยังผนึกกำลังกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) เดินหน้า “โครงการกล้าจากป่า พนาในเมือง (กทม.) สนับสนุนต้นไม้ 100,000 ต้น หนุนเพิ่มพื้นที่สีเขียว และกำแพงกรองฝุ่น ในโครงการปลูกต้นไม้ 1 ล้านต้น ของ กทม.

ซีพีเอฟ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo