10 จุดน่าสนใจในงบการเงิน OR หุ้นยอดนิยมของนักลงทุนไทย พร้อมส่วนทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2566
บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR หุ้นยอดนิยมของนักลงทุนไทย เป็นผู้นำในธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและธุรกิจค้าปลีกสินค้าและบริการอื่นๆ อาทิ ร้านกาแฟ ร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อ ล่าสุดบริษัทได้รายงานผลประกอบการปี 2565 ออกมาแล้ว เราจึงได้รวบรวมหลายประเด็นที่น่าสนใจมาฝากกัน
งบการเงิน OR ที่น่าสนใจ
1. รายได้เติบโตต่อเนื่องกว่า 54.3%
ปี 2565 OR มีรายได้ขายและบริการ 789,785 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 277,986 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโต 54.3% จากปีก่อน ปัจจัยหลักมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ทำให้ปริมาณขายปรับเพิ่มขึ้นกว่า 15% ในทุกกลุ่มธุรกิจ นอกจากนี้ ยังได้รับส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน (Share of Income) ที่เพิ่มขึ้น โดยหลักมาจาก บริษัท ท่อส่งปิโตรเลียมไทย จำกัด และผลประกอบการที่ดีขึ้น จากการร่วมลงทุนกับพันธมิตร (Partners) ในกลุ่มธุรกิจ Lifestyle
2. Mobility ยังคงเป็นรายได้หลัก
สัดส่วนรายได้ขายและบริการ ส่วนใหญ่ยังคงมาจากกลุ่มธุรกิจ Mobility ประกอบด้วยสถาบีบริการน้ำมัน, EV Station PluZ และสถานีบริการ LPG โดยคิดเป็นสัดส่วน 90.9% หรือมากกว่า 736,408 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มธุรกิจ Global สัดส่วน 6.4% จำนวน 52,154 ล้านบาท และกลุ่มธุรกิจ Lifestyle สัดส่วน 2.6% จำนวน 21,082 ล้านบาท
3. Lifestyle คือตัวหนุนกำไร
ทว่ากลุ่มธุรกิจ Lifestyle ที่นำโดย Cafe Amazon, เท็กซัส ชิคเก้น, พิร์ลลี่ที, Pacamara Coffee Roasters และร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ 7-Eleven และจิฟฟี่ กลับเป็นตัวที่หนุนกำไรของบริษัท เพราะมี EBITDA Margin สูงถึง 24.8% และทำ EBITDA ปี 2565 ที่ 5,238 ล้านบาท เทียบกับกลุ่มธุรกิจ Mobility ที่ให้ EBITDA Margin เพียง 1.9% เท่านั้น
4. ยืนหนึ่งส่วนแบ่งการตลาดค้าปลีกน้ำมัน
กรมธุรกิจพลังงานรายงานภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง รอบปี 2565 อยู่ที่ 151.2 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้น 13.5% จากปีก่อน เนื่องจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ให้ความสนใจเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย ประกอบกับคนไทยเดินทางข้ามจังหวัดมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงปลายปี ทั้งนี้ครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 ที่ 43.2%
5. ร้านกาแฟ Cafe Amazon ทะลุ 3,895 สาขา ยอดขาย 357 ล้านแก้ว
Flagship ของกลุ่มธุรกิจ Lifestyle อย่าง Cafe Amazon ในปี 2565 มีสาขารวมทั้งสิ้น 3,895 สาขา เพิ่มขึ้น 267 สาขาจากปีก่อน เช่นเดียวกันปริมาณขายที่ทำได้ 357 ล้านแก้ว เพิ่มขึ้น 19.8% จากปีก่อน
6. ฟิลิปปินส์ คือตลาดหลักในกลุ่มธุรกิจต่างประเทศ
ภาพรวมต่างประเทศ พบว่าฟิลิปปินส์ ยังคงมีสัดส่วนรายได้มากที่สุดอยู่ที่ 779 ล้านบาท ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีแนวโน้มการเติบโตสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ในส่วนของประเทศอื่นๆ ตามมาด้วย กันพูชา 461 ล้านบาท และลาว 257 ล้านบาท
7. กำไรสุทธิ 10,370 ล้านบาท
OR รายงานกำไรสุทธิปี 2565 ที่ 10,370 ล้านบาท ลดลง 9.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.86 บาทต่อหุ้น สาเหตุที่หดตัวลงเนื่องด้วยบริษัทมีต้นทุนผลิตภัณฑ์ในส่วนของกลุ่มธุรกิจ Mobility เพิ่มขึ้น และการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายดำเนินงาน ส่วนใหญ่เป็นค่าขนส่งที่ผันแปรตามยอดขายที่เพิ่ม ค่าประชาสัมพันธ์องค์กรและค่าซ่อมแซมและบำรุงรักษาทรัพย์สิน นอกจากนี้ มีรายการขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์เพิ่มขึ้นจากการบริหารความเสี่ยงของเงินตราต่างประเทศที่ค่าเงินบาทอ่อนค่า
8. ฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง สินทรัพย์รวม 225,504 ล้านบาท
ข้อมุล ณ 31 ธันวาคม 2565 OR มีสินทรัพย์รวม 225,504 ล้านบาท ถือว่าเพิ่มขึ้น 17,845 ล้านบาทจากสิ้นปี 2564 และบริษัทได้เตรียมงบลงทุนสำหรับปี 2566 ไว้ที่ 31,000 ล้านบาท เพื่อรองรับภาพรวมการเติบโตของธุรกิจในปีนี้ที่คาดว่าจะดีขึ้น
งบการเงิน OR รอจ่ายปันผล 0.15 บาท
9. เตรียมจ่ายปันผล 0.15 บาท
บอร์ดเห็นชอบให้เสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานครึ่งหลังของปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท
10. มุ่งเสริมแกร่งธุรกิจเดิม สร้างโอกาสธุรกิจใหม่
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2566 OR มีความเชื่อมั่นในการเป็นผู้นำในตลาดผลิตภัณฑ์น้ำมันและค้าปลีกในประเทศไทย ที่มีความสามารถในการแข่งขันที่โดดเด่น และมีโอกาสเติบโตได้ในอนาคต โดยจะยังคงมุ่งมั่นเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจเดิม พร้อมสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ เพื่อตอบโจทย์เป้าหมาย “OR’s SDG” หรือ SDG ในแบบฉบับของ OR เพื่อผลักดันให้ OR ก้าวไปสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘โออาร์’ เปิดผลการดำเนินงานปี 65 รายได้พุ่ง 54.3% จ่อเสนอจ่ายปันผลหุ้นละ 0.15 บาท
- ‘OR‘ ผนึกพันธมิตร ‘MEA-PEA-EGAT-EA’ ยกระดับบริการ EV พัฒนาแอปดูหมุดสถานีชาร์จข้ามค่ายได้แล้ว
- ‘OR‘ เปิดกำไร 9 เดือนโตกว่า 1.1 หมื่นล้าน โค้งสุดท้ายเดินหน้าธุรกิจ Mobility & Lifestyle
