ปตท. เปิดผลดำเนินการปี 2565 แข็งแกร่ง ในสภาวะพลังงานผันผวน ยึดมั่นพันธกิจสร้างความมั่นคงทางพลังงาน พร้อมนำเงินส่งรัฐ รวมกลุ่ม ปตท. 86,395 ล้านบาท
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) มีมติจ่ายเงินปันผล สำหรับผลประกอบการปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 2 บาท ซึ่งได้จ่ายปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 1.30 บาท เมื่อเดือนตุลาคม 2565 คงเหลือเงินปันผลที่จะจ่ายอีกในอัตราหุ้นละ 0.70 บาทโดยกระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ และกองทุนวายุภักษ์รับปันผล 36,144 ล้านบาท
จากผลการดำเนินงานของ ปตท. และบริษัทย่อยที่มีกำไรสุทธิในปี 2565 จำนวน 91,175 ล้านบาท (คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ 3.6%) ลดลงจำนวน 17,188 ล้านบาท หรือ 15.9% จากปีก่อน แม้ว่ากำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย ต้นทุนทางการเงิน และภาษีเงินได้ (EBITDA) เพิ่มขึ้น เป็นผลมาจาก ธุรกิจสำรวจและผลิตที่มีผลการดำเนินงานดีขึ้น ตามราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น จากราคาพลังงานในตลาดโลก และปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว
ขณะที่ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ มีผลการดำเนินงานลดลงจากต้นทุนก๊าซที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก จากการนำเข้า Spot LNG เพื่อรองรับความต้องการใช้ก๊าซในประเทศ และธุรกิจปิโตรเคมี และการกลั่นมีผลการดำเนินงานลดลงเช่นกัน
โดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังของปี ที่ราคาปิโตรเคมีปรับลดลงจากความกังวลเกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจถดถอย รวมถึงในปี 2565 ต้นทุนทางการเงิน ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย ผลขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์ และ ผลขาดทุนจากการรับรู้รายการขาดทุนที่ไม่ได้เกิดขึ้นประจำสุทธิภาษีตามสัดส่วนของ ปตท. เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับปี 2564
กำไรสุทธิจำนวน 91,175 ล้านบาท มาจากผลการดำเนินงานของ ปตท. คิดเป็น 17% ซึ่งลดลงจากปีก่อน เนื่องจากผลการดำเนินงานของธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ที่มีต้นทุนราคาค่าเนื้อก๊าซปรับสูงขึ้นมาก และอีก 83% มาจากผลการดำเนินงานของบริษัทในเครือ ปตท. ซึ่งประกอบด้วย ธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม 51% ธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน และบริษัทย่อยอื่น ๆ 23% กลุ่มธุรกิจน้ำมันและค้าปลีก 8% และธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น 1%
ทั้งนี้ ในปี 2565 กลุ่ม ปตท. นำส่งรายได้เข้ารัฐรวมจำนวน 86,395 ล้านบาท ซึ่งรวม เงินปันผล ภาษีเงินได้นิติบุคคลของ ปตท. และภาษีเงินได้นิติบุคคลของบริษัทในเครือ
นอกจากนี้ ในปี 2565 กลุ่ม ปตท. มีส่วนช่วยเหลือลดต้นทุนค่าครองชีพด้านพลังงานให้กับประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง ร่วมดูแลสังคมจัดตั้งโครงการลมหายใจเดียวกัน สนับสนุนระบบสาธารณสุขของประเทศ จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พร้อมดำเนินโครงการลมหายใจเพื่อน้อง ช่วยเหลือเยาวชนกว่า 60,000 คน ที่เสี่ยงต่อการหลุดจากระบบการศึกษา
ทั้งยังได้ประกาศเจตนารมณ์ กลุ่ม ปตท. มุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 15% ภายในปี 2573 บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2583 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593 ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมายของประเทศ
บริษัทยังพร้อมดำเนินการในทุกมิติ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 โดย ปตท. ยังคงมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจตามพันธกิจหลักในการจัดหาและสำรองพลังงานให้ประชาชน และภาคอุตสาหกรรมได้เข้าถึงพลังงานอย่างทั่วถึง ในราคาที่เป็นธรรม พร้อมกับการแสวงหาโอกาสในธุรกิจใหม่และธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืนต่อไป
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ปตท. พัฒนาศักยภาพ ‘ขยะ’ สู่ทรัพยากรมีคุณค่า ร่วมขับเคลื่อน BCG Model ประเทศไทย
- ‘ปตท.’ ดึง ‘เทคโนโลยีดิจิทัล’ หนุน ‘เศรษฐกิจสร้างสรรค์’ เป็น ‘ซอฟต์พาวเวอร์’ ดันไทยโตยั่งยืน
- ปตท.แชมป์! นำส่งรายได้แผ่นดินไตรมาสแรกสูงสุดทะลุ 1.8 หมื่นล้าน