ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (3 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” พลิกกลับมาอยู่ในแดนบวกได้ หลังช่วงเปิดตลาดดิ่งแรง จากตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่ง ทำให้เกิดความวิตกว่า จะกลายเป็นปัจจัยให้เฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย สกัดเงินเฟ้อ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 34,120.86 จุด ปรับขึ้น 66.92 จุด หรือ 0.20% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,176.25 จุด ลดลง 3.51 จุด หรือ 0.08% และดัชนีแนสแด็กที่ 12,195.59 จุด ขยับลงมา 5.23 จุด หรือ 0.04%
ตลาดยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และการดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ โดยการแข็งค่าของดอลลาร์ทำให้นักลงทุนวิตกว่า จะส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่มีรายได้จากต่างประเทศ
ส่วนการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก รวมถึงอัตราดอกเบี้ยจำนองของสหรัฐ จะทำให้ผู้บริโภคมีเงินสำหรับการใช้จ่ายลดน้อยลง และบริษัทต่าง ๆ จะเผชิญกับต้นทุนสูงขึ้นจากการชำระหนี้ ทำให้บริษัทเหล่านี้ลดการลงทุน และลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน
นักลงทุนปรับคาดการณ์เพดานอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปีนี้ สู่ระดับสูงกว่า 5% หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้
ก่อนหน้านี้ นักลงทุนคาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% อีกเพียง 1 ครั้งในการประชุมเดือนมีนาคม ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยมาอยู่ที่ระดับ 4.75%-5.00%
อย่างไรก็ดี หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานในวันนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% อีก 2 ครั้ง ในการประชุมเดือนมีนาคม และเดือนพฤษภาคม แตะระดับสูงสุดที่ 5.00-5.25% ก่อนจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวไปอีกระยะหนึ่ง
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 517,000 ตำแหน่งในเดือนมกราคม สูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2565 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่จำนวน 187,000 ตำแหน่ง
ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.4% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2512 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.6%
กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ปรับตัวเลขการจ้างงานในเดือนธันวาคม เป็นเพิ่มขึ้น 260,000 ตำแหน่ง จากเดิมรายงานว่าเพิ่มขึ้น 223,000 ตำแหน่ง
ขณะเดียวกัน ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน ซึ่งเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อนั้น เพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายเดือน สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และเพิ่มขึ้น 4.4% เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.3%
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ไอเอ็มเอฟ’ ประเมินเศรษฐกิจโลกปี 66 ขยายตัว 2.9% คงคาดการณ์เศรษฐกิจไทยโต 3.7%
- คาดเลือกตั้งดันเศรษฐกิจไตรมาส 2 โต 1-1.5% เงินสะพัด 5 หมื่นล้าน!
- ยูเอ็น คาด เศรษฐกิจโลกปี 66 โตแค่ 1.9% ‘สงครามยูเครน-เงินเฟ้อ’ สาเหตุหลักสกัดการขยายตัว