ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (2 ก.พ.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ลดลงเกิน 100 จุด ส่วนทาง “แนสแด็ก” ที่พุ่งขึ้นมากกว่า 300 จุด ท่ามกลางการจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่หลายแห่งในวันนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 33,990.50 จุด ร่วงลง 102.46 จุด หรือ 0.30% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,178.76 จุด ปรับขึ้น 59.55 จุด หรือ 1.45% และดัชนีแนสแด็กที่ 12,164.11 จุด พุ่งขึ้น 347.79 จุด หรือ 2.94%
แนสแด็ก ได้แรงหนุนขาขึ้น จากการพุ่งขึ้นของหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี นำโดย “เมตา แพลตฟอร์ม” บริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก หลังเปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาส 4/2565 ที่ดีกว่าคาด
วันนี้ นักลงทุนจับตาการรายงานผลประกอบการของบริษัทแอปเปิ้ล อัลฟาเบท อเมซอน ฟอร์ด มอเตอร์ และสตาร์บัคส์
นอกจากนี้ ตลาดยังเกาะติดตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันพรุ่งนี้ (3 ก.พ.) โดยคาดว่า จะเพิ่มขึ้นเพียง 187,000 ตำแหน่งในเดือนมกราคม หลังจากเพิ่มขึ้น 223,000 ตำแหน่งในเดือนธันวาคม และคาดว่าอัตราว่างงานจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.6% ในเดือนมกราคม จากระดับ 3.5% ในเดือนธันวาคม
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 3,000 ราย มาอยู่ที่ 183,000 ราย สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่า จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที 200,000 ราย และยังอยู่ในระดับต่ำว่า 215,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐ
ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง ลดลง 11,000 ราย มาอยู่ที่ 1.65 ล้านราย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ไอเอ็มเอฟ’ ประเมินเศรษฐกิจโลกปี 66 ขยายตัว 2.9% คงคาดการณ์เศรษฐกิจไทยโต 3.7%
- คาดเลือกตั้งดันเศรษฐกิจไตรมาส 2 โต 1-1.5% เงินสะพัด 5 หมื่นล้าน!
- ยูเอ็น คาด เศรษฐกิจโลกปี 66 โตแค่ 1.9% ‘สงครามยูเครน-เงินเฟ้อ’ สาเหตุหลักสกัดการขยายตัว