Stock

โพลนักวิเคราะห์มองหุ้นไทยปี 2566 ปิดที่ 1,741 จุด เช็ก 5 ชื่อหุ้นแนะนำที่นี่!

โพลนักวิเคราะห์มองหุ้นไทยปี 2566 ปิดที่ 1,741 จุด กรอบทั้งปีที่ 1,554-1,773 จุด เช็ก 5 ชื่อหุ้นแนะนำที่นี่!

นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการ สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA) เปิดเผยผลการสำรวจความเห็นสมาชิกนักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุนรวม 26 สำนักเกี่ยวกับมุมมองการลงทุนปี 2566 ระบุว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) ไตรมาสแรกของปีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2565 โดยคาดว่าจะปิดสิ้นไตรมาสที่ 1,694 จุด กรอบการแกว่งตัวของ SET ทั้งปีในกรอบ 1,554-1,773 จุด ดัชนีปิดสิ้นปี 2566 ที่ 1,741 จุด

หุ้นไทยปี 2566

ขณะที่กำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ของตลาดในปี 2566 คาดการณ์ที่เฉลี่ย 105.34 บาท เพิ่มขึ้นกว่าผลสำรวจครั้งก่อนที่ 100.36 บาทต่อหุ้น และครั้งนี้คาดการณ์ EPS Growth ของปี 2566 อยู่ที่ 7.06% ทั้งนี้ การแสดงความเห็นดังกล่าวอยู่ภายใต้สมมติฐานหลัก การปรับลดราคาน้ำมันดิบของปีนี้จาก 98.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล มาเป็น 87.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ไทยที่ 3.60%

นักวิเคราะห์ยังแสดงความเห็นต่อทิศทางการลงทุนในปี 2566 จะได้รับผลบวกที่ชัดเจนจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ เศรษฐกิจภายในประเทศ โดยมีผู้โหวตถึง 96.15% และผลประกอบการ บจ.ปี 66 มีผู้โหวต 80.77% ตามมาด้วย Fund Flows จากต่างประเทศสู่ตลาดหุ้นไทย มีผู้โหวต 76.92% และปัจจัยการเมืองในประเทศ มีผู้โหวต 73.08%

หุ้นไทยปี 2566

ส่วนปัจจัยด้านลบ มาจาก ปัจจัยด้านเศรษฐกิจโลก มีผู้โหวตมากถึง 88.46% รองลงมาคือ การลดหรือยุติมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของประเทศสำคัญทั่วโลก มีผู้โหวต 62.96% และ ตามติดมาด้วย ปัจจัยด้านการเมืองในต่างประเทศ มีผู้โหวต 53.85%

ปัจจัยที่ควรจับตามองที่มีผลต่อการขับเคลื่อนตลาดในไตรมาสแรก ผู้ตอบส่วนใหญ่มองว่าการกลับมาเปิดประเทศของจีน และการเลือกตั้งภายในประเทศ

ด้านการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในปี 2566 นักวิเคราะห์ทุกสำนักคาดว่ามีการปรับขึ้น โดย 46.15% คาดว่าจะปรับขึ้น 0.50% รองลงมามี 42.31% มองว่าปรับขึ้น 0.75% ส่วนที่เหลือมีผู้ตอบ 7.69% ที่มองว่าจะปรับขึ้น 0.25% และมี 3.85% ที่มองว่าปรับขึ้น 1% หรือมากกว่าตามลำดับ

หุ้นไทยปี 2566

นักวิเคราะห์แนะนำให้กระจายพอร์ตการลงทุน แบ่งเป็น

  • เงินสดและเงินฝากระยะสั้น 12%
  • กองทุนตราสารหนี้ 20.12%
  • หุ้นไทยหรือกองทุนหุ้นไทย 28.52%
  • หุ้นหรือกองทุนหุ้นต่างประเทศ 23.60%
  • กองทุนอสังหาฯหรือ REIT 7.52%
  • ทองคำหรือกองทุนทองคำ 7.92%
  • อื่น ๆ เช่น กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน น้ำมัน 0.32%

สำหรับในการลงทุนหุ้นไทยนั้น แนะนำให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุน ในหมวดธุรกิจ ค้าปลีก ธนาคาร การท่องเที่ยว ในขณะที่ให้ลดน้ำหนักการลงทุนใน หมวดธุรกิจปิโตรเคมี พลังงานและสาธารณูปโภค รวมถึงชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์

หุ้นไทยปี 2566

หุ้นที่นักวิเคราะห์แนะนำ

รายชื่อหุ้นที่นักวิเคราะห์แนะนำโดยมีจำนวนสำนักวิเคราะห์แนะนำตรงกันตั้งแต่ 4 สำนักขึ้นไป มีดังนี้ (เรียงชื่อตามอักษรย่อ)

  • ADVANC เป็นหุ้น Defensive ที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว จ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอราว 4% ต่อปี และประมาณการณ์กำไรมี Upside จากการต่อยอดเข้าสู่ธุรกิจการเงิน คือ Virtual Bank
  • AOT มองว่าผลประกอบการจะพลิกเป็นกำไรหลังการท่องเที่ยวฟื้นตัวฃ
  • BBL โดยมองว่าได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และเป็นธนาคารที่ได้ประโยชน์สูงสุดจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ภาคธุรกิจ
  • COM7 ปัจจัยสนับสนุนจาก 1) ความเชื่อมั่นผู้บริโภคไทยที่สูงขึ้น 2) การครอบครองมือถือ 5G ที่สูงขึ้น และ 3) เดินหน้าขยายสาขา 150 แห่งตามแผนต่อเนื่อง (ปี 2022 ขยายไปแล้ว 113 สาขา)
  • CPALL ปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคฟื้นตัวต่อรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ หนุนการขยายตัวของ Same Store Sales Growth (SSSG)

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo