บล.โกลเบล็ก ประเมินหุ้นไทยสัปดาห์นี้ผันผวน หวั่นเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย และสถานการณ์โควิดในจีน คาดกรอบ 1,600-1,640 จุด พร้อมเปิด 12 หุ้นเด่นรับอานิสงส์ช้อปดีมีคืน 2566
นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ยังแกว่งตัวผันผวน โดยนักลงทุนยังวิตกกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยทางเอสแอนด์พี โกลบอล ได้มีการเปิดเผยตัวเลข PMI รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 44.6 ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน จากระดับ 46.4 ในเดือนพฤศจิกายน โดยดัชนี PMI ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคธุรกิจของสหรัฐอยู่ในภาวะหดตัว และหดตัวเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน
จีนเผชิญโควิดระบาดหนัก
อีกทั้งความตึงเครียดระหว่างจีน และจีนมีเพิ่มมากขึ้น ล่าสุดรัฐบาลสหรัฐดำเนินการขึ้นบัญชีดำบริษัทเทคโนโลยีจีน รวมทั้งหมด 36 แห่ง ซึ่งถือเป็นการยกระดับความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสองประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ประกอบกับเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเงินของจีน ประกาศปิดโรงเรียนส่วนใหญ่ เนื่องจากกังวลว่าการยกเลิกมาตรการเข้มงวดในการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 จะส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าจีนเผชิญโควิดระบาด 3 ระลอกในฤดูหนาวนี้
ดังนั้นทางนักเศรษฐศาสตร์จีนจากยูบีเอส (UBS) คาดการณ์ตัวเลข GDP งวด 4Q65 ของจีนมีแนวโน้มอ่อนแอกว่าที่คาด ทำให้ UBS ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของ GDP ปี 2565 จากระดับ 3.1% เหลือเพียง 2.7% โดยอ้างถึงการขยายตัวที่ย่ำแย่กว่าคาดในเดือนพ.ย. เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้น จึงให้กรอบดัชนีที่ 1,600-1,640 จุด
ด้านปัจจัยที่ต้องจับตาในประเทศ อาทิ สหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตัวเลข GDP ไตรมาส 3/65 ดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนพฤศจิกายน ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนพฤศจิกายน ญี่ปุ่นรายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนพฤศจิกายน ธนาคารกลางญี่ปุ่นเปิดเผยรายงานการประชุม สหรัฐรายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพฤศจิกายน ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนพฤศจิกายน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธันวาคม
หุ้นเด่นรับอานิสงส์ ช้อปดีมีคืน 2566
ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากโครงการช้อปดีมีคืน 2566 ได้แก่
- BJC
- CPALL
- MAKRO
- CRC
- COM7
- SPVI
- CPW
- JMART
- HMPRO
- ZEN
- M
- AU
5 หุ้นรับสถานการณ์โควิดพุ่ง
รองลงมาหุ้นที่อานิสงส์จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศเร่งตัวขึ้น ได้แก่
- BCH
- CHG
- EKH
- THG
- WPH
ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก ประเมินราคาทองคำ Sideway up อยู่ในกรอบ 1,773-1,824 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยช่วงต้นสัปดาห์มีการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อเดือนพฤศจิกายนของสหรัฐออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ที่ระดับ 7.1% สอดคล้องกับมติการประชุม FOMC ของเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยที่ระดับ 0.5% เป็นไปตามที่ตลาดคาด และกองทุน SPDR เริ่มกลับระดับ +5.79 ตัน หนุนให้ราคาทองคำปรับขึ้นทำจุดสูงสุดบริเวณ 1,824 ดอลลาร์/ออนซ์ ต่อมาช่วงกลางสัปดาห์มีสัญญาณกดดันจากแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยในปี 66 ที่ระดับ 5.25-5.75% ส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 3.63% สอดคล้องกับดัชนีดอลลาร์ที่ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 105.29
อีกทั้งยังคงจับตาประกาศตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และดัชนีเงินเฟ้อส่วนบุคคลเดือนพฤศจิกายน หากตัวเลขดังกล่าวอ่อนตัวลงจะเป็นตัวหนุนต่อราคาทองคำ ขณะที่ SPDR กลับเข้ามาซื้อต่อเนื่อง ล่าสุดภาพรวมเดือนธันวาคมเข้าซื้อไปแล้วกว่า 5.79 ตัน ดังนั้นฝ่ายวิจัยประเมินว่าราคาทองคำมีแนวโน้ม sideway up เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐอาจออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ อีกทั้งตลาดได้ตอบรับข่าวการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดไปแล้ว มองกรอบราคาบริเวณ 1,775-1,850 ดอลลาร์/ออนซ์ หากไม่หลุดแนวรับดังกล่าวทยอยเข้าซื้อสะสม
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เปิดเงื่อนไขช้อปดีมีคืน 2566 เตือน!! ซื้อของ 8 กลุ่มนี้หมดสิทธิ์ลดหย่อน
- ไฟเขียวของขวัญปีใหม่ 2566 จัดเต็ม ‘ช้อปดีมีคืน-ลดภาษีที่ดิน-ค่าธรรมเนียมโอน’
- ช้อปดีมีคืน เริ่มแล้ว!! ช้อปปิ้งแล้ว อย่าลืมขอใบกำกับภาษี ลดหย่อนสูงสุด 3 หมื่นบาท