Personal Finance

คนไทยสนใจ ออม-ลงทุน พุ่ง ทวิตเตอร์เผย 94% คาดหวังข้อมูลใหม่ จากแบรนด์การเงิน

ทวิตเตอร์เผยพฤติกรรมคนไทย สนใจ ออม-ลงทุนมากขึ้น โดย 94% ต้องการเสพข้อมูลใหม่ ๆ จากแบรนด์ทางการเงิน แนะแบรนด์ปรับตัวรับมือ

ข้อมูลจาก Global Web Index บริษัทชั้นนำด้านวิเคราะห์ตลาดพฤติกรรมผู้บริโภคออนไลน์ ระบุว่า 8 ใน 9 คนไทยบนทวิตเตอร์มีความสนใจ การออมเงิน การลงทุน และมีหลากหลายกลุ่ม ที่พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในหัวข้อนี้

ออม-ลงทุน

 

สำหรับคนไทยที่มีความรู้ความเข้าใจทางการเงิน จะใช้ทวิตเตอร์เพื่อติดตามข่าวสารเกี่ยวกับตลาดหุ้น เศรษฐกิจ และเทรนด์ล่าสุดของการออมและการลงทุน ตลอดจนสนใจและมีความรู้ในเรื่องการเงินต่าง ๆ และมักเข้าไปมีส่วนร่วมในบทสนทนาหัวข้อนี้อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ผลสำรวจพบว่า 74% ของชาวทวิตภพเข้ามาใช้ทวิตเตอร์ทุกวัน และ 42% ใช้ทวิตเตอร์วันละหลายครั้ง นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อกับแบรนด์เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินเพื่อช่วยตัดสินใจเรื่องของการออมและการลงทุน

บทสนทนาเกี่ยวกับการออม-ลงทุน ในประเทศไทย

การออมและการลงทุน คือเรื่องสำคัญสำหรับคนไทย โดยข้อมูลจาก Brandwatch 2020-2021 ระบุว่า ชาวทวิตภพทวีตเกี่ยวกับเรื่องนี้มากกว่า 70,000 ครั้งต่อวัน มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเข้ามาปรึกษาพูดคุยในเรื่องของการลงทุนในหุ้น รวมถึงสนับสนุนให้คนอื่นลองเริ่มลงทุนด้วย

ขณะที่ชาวทวิตภพที่บริหารเงินได้อย่างเชี่ยวชาญ 41% อยากเห็น #WhatsHappening สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นบนทวิตเตอร์แบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ยังเข้ามาค้นหาข้อเสนอและคำแนะนำต่าง ๆ เกี่ยวกับการวางแผนการออม การลงทุนในหุ้น และความเสี่ยงในการลงทุน ตลอดจนแบ่งปันเคล็ดลับและความสำเร็จของตัวเองบนทวิตเตอร์

ทวิต

ข้อมูลเชิงลึกของทวิตเตอร์พบว่า แบรนด์ควรให้ความสนใจในเรื่องที่เกี่ยวข้อง เรียนรู้และทำความเข้าใจถึงสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการและอยากได้จากบทสนทนาบนทวิตเตอร์

ทวิตเตอร์พบว่าบรรดาผู้ที่มีความสนใจในเรื่องการออมและการลงทุนบนทวิตเตอร์ประเทศไทยนั้น 73% สนใจเรื่องดนตรี 68% สนใจเทคโนโลยี 67% สนใจการทำอาหาร และ 67% สนใจอาหารและเครื่องดื่ม จากข้อมูลเชิงลึกนี้เป็นโอกาสให้แบรนด์สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในบทสนทนากับกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างสร้างสรรค์

คนไทยกำลังคาดหวังนวัตกรรมจากแบรนด์

การดิสรัปชั่นกำลังสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมทางการเงิน และบทสนทนาเหล่านี้เกิดขึ้นบนทวิตเตอร์ ซึ่งแสดงถึงความต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเพิ่มสูงขึ้น เห็นได้จาก 94% คนไทยบนทวิตเตอร์อยากเห็นข้อมูลใหม่ ๆ จากแบรนด์ทางการเงิน

นอกจากนี้ ผู้บริโภคชาวไทย มากกว่า 2 ใน 3 อยากเห็นผลิตภัณฑ์ บริการ และแอปพลิเคชั่นใหม่ๆ โดย 34% อยากจะเห็นแนวคิดริเริ่มใหม่ๆ

ส่วนเหตุผลอันดับหนึ่งที่ผู้คนเข้ามาใช้ทวิตเตอร์คือ การได้ค้นพบสิ่งใหม่ๆ ที่น่าสนใจ เพราะฉะนั้นแบรนด์ที่เน้นเรื่องนวัตกรรมจะได้พบกับโอกาสใหม่ ๆ ในการคอนเน็คกับกลุ่มเป้าหมายอย่างแน่นอน

จากข้อมูลเชิงลึกของทวิตเตอร์พบว่า คนที่มีความรู้ความเข้าใจทางการเงินบนทวิตเตอร์ประเทศไทย 42% เชื่อใจการรีวิวผลิตภัณฑ์ออนไลน์ และ 41% ศึกษาความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ แบรนด์ที่มีความเชี่ยวชาญจะเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายบนทวิตเตอร์ ด้วยการให้คำแนะนำและข้อมูลเชิงลึกที่มีประโยชน์

คนไทยบนทวิตเตอร์ ยังมีทัศนคติของการค้นพบสิ่งใหม่ พวกเขาชอบการเป็นคนกลุ่มแรกที่ได้ลองสิ่งใหม่ และพูดคุยกันถึงเรื่องนั้น บทสนทนาในเรื่องคริปโตเคอร์เรนซี NFTs และเทรนด์ล่าสุดในการลงทุนเป็นหัวข้อที่มีการพูดคุยกันบนทวิตเตอร์ในทุก ๆ วัน

ทวิต1

แนะแบรนด์ใช้ประโยชน์จากบทสนทนาที่เกี่ยวกับการเงิน

อันดับแรกคือ การรับฟัง ทุกวันจะมีบทสนทนาเรื่องการเงินที่หลากหลายจำนวนมากเกิดขึ้นบนทวิตเตอร์ประเทศไทย หากแบรนด์ต่างๆ ยอมรับฟัง ก็จะสามารถเข้าใจถึงสิ่งที่มีความสำคัญกับผู้บริโภคได้มากขึ้น เมื่อแบรนด์เข้าไปร่วมวงสนทนาก็ควรนึกถึงโทนเสียง ภาษาที่ใช้ วิธีการสื่อสารรวมไปถึงเรื่องที่เกี่ยวข้อง

ภาษาคือสิ่งที่สำคัญในการสื่อสาร หากแบรนด์กระโดดเข้าไปในบทสนทนาของงานศิลปะดิจิทัลอย่าง NFTs โดยที่ไม่สามารถเพิ่มคุณค่าให้กับบทสนทนานั้น ๆ ได้ แบรนด์ควรรับฟังผู้คนต่อไป จนกว่าจะมีหัวข้อหรือเรื่องที่เป็นประโยชน์ และสามารถเพิ่มลงในบทสนทนานั้นๆ ได้

ข้อมูลเชิงลึกของทวิตเตอร์พบว่า คนไทยบนทวิตเตอร์กำลังคาดหวังนวัตกรรมใหม่ ๆ จากแบรนด์ พวกเขาให้คุณค่ากับความคิดเห็นของผู้อื่นและเชื่อในรีวิวบนทวิตเตอร์

ดังนั้น แบรนด์ควรมองให้เป็นโอกาสในการเข้าไปเอ็นเกจกับบทสนทนา ทุ่มเทและสนับสนุนให้ผู้บริโภคแชร์ฟีดแบ็ก แสวงหาความคิดเห็นในเชิงรุก และไม่เพียงแค่สร้างสรรค์ในการทำการตลาด และแคมเปญเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่นำเสนอด้วยเช่นกัน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo