สมาคมค้าทองคำ รายงาน ราคาทองวันนี้ 18 ธ.ค. 2563 ปรับขึ้น 50 บาท จากราคาปิดเมื่อวานนี้ (17 ธ.ค.)
ราคาทองวันนี้ 18 ธ.ค. ล่าสุด ทองคำแท่ง 96.5% ในประเทศ มีราคารับซื้อ อยู่ที่บาทละ 26,350 บาท ขายออกที่ ราคาบาทละ 26,550 บาท ส่วนราคาทองรูปพรรณ 96.5% รับซื้ออยู่ที่ ราคาบาทละ 25,969.08 บาท และขายออก ที่บาทละ 27,050 บาท
ขณะที่ ราคาทองคำโลก หรือ Gold Spot ล่าสุดอยู่ที่ 1,880 ดอลลาร์ ต่อออนซ์
ราคาทองคํา Spot ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ขานรับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ประกาศเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายการเงิน รวมทั้งความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ และการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ในประเทศเงินบาทแข็ง กดดันทองปรับขึ้นได้ไม่มาก
ทองคำพุ่งขึ้นแรงกว่า 30 ดอลาร์ ขานรับมติเอกฉันท์ของเฟดที่คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% พร้อมกับให้คำมั่นว่าจะเดินหน้าใช้เครื่องมือทุกอย่างในการสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ในขณะเดียวกัน ความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐเป็นอีกปัจจัยหนุนต่อแรงซื้อในตลาดทองคำ จากคำกล่าวล่าสุดของ นายมิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐ ว่าสภาคองเกรสมีความคืบหน้าในการเจรจาเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งการออกกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาล
คืนวันนี้ไม่มีรายงานเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐ แต่ติดตามความคืบหน้าในการเจรจาเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ ส่วนเช้านี้ ติดตามการประชุมธนาคารกลางญีปุ่น(บีโอเจ)
ประกาศราคาทองคำในประเทศเปิดตลาดปรับขึ้นตามทองคำโลกได้ไม่มาก 50 บาท เนื่องมาจาก เงินบาทที่ยังคงแข็งค่าในรอบ 1 ปี บริเวณ 29.80 บาท เป็นปัจจัยกดดันสำคัญต่อทองคำในประเทศปรับตัวขึ้นได้ไม่มากดังกล่าว
ฮั่วเซ่งเฮง วิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำคาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบบริเวณ 1,870-1,900 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้านสำคัญ 1,900 ดอลลาร์ ซึ่งถ้าผ่านขึ้นไปได้จะมีแนวต้านถัดไปที่บริเวณ 1,920 ดอลลาร์ ในขณะที่แนวรับ 1,870 ดอลลาร์ จะเป็นแนวรับแรก และแนวรับถัดไปบริเวณ 1,850 ดอลลาร์
บทวิเคราะห์ของ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG Bullion and Futures Co., Ltd.) ระบุว่า ราคาทองคำวานนี้ปิดทะยานขึ้นอีก 20.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำยังคงได้รับแรงหนุนสำคัญจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ร่วงลงหลุด 90 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ เม.ย.ปี 2018
ดอลลาร์ได้รับแรงกดดันจาก ความคืบหน้าเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ ล่าสุด นายมิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐ ออกมากล่าวว่า “ข้อตกลงดูเหมือนว่าจะอยู่ใกล้แค่เอื้อม” แม้ว่าสภาคองเกรส “มีแนวโน้มสูง” ที่จะต้องดำเนินการต่อเนื่องในช่วงสุดสัปดาห์ และกล่าวว่าฝ่ายนิติบัญญัติอาจผ่านกฏหมายงบประมาณชั่วคราว(stopgap funding bill) เพื่อให้มีเวลาเพียงพอในการอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่
การเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ “แย่” เกินคาด อาทิ ดัชนีภาวะธุรกิจในภูมิภาคมิด-แอตแลนติก และตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงาน
การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้คำมั่นในการประชุมนโยบายการเงินนัดสุดท้ายของปีนี้ ว่าจะใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน และการอัดฉีดเม็ดเงิน QE ต่อไป และการแข็งค่าของเงินปอนด์ ขานรับความหวังว่าสหภาพยุโรป (EU) และสหราชอาณาจักร (UK) จะบรรลุข้อตกลงการค้าในอีกไม่กี่วันเพื่อเลี่ยง No-deal Brexit
ปัจจัยที่กล่าวมา กดดันให้สกุลเงินดอลลาร์ อ่อนค่าลงอย่างมาก จนหนุนให้ราคาทองคำ ทะยานขึ้นทำระดับสูงสุดบริเวณ 1,896.21 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่เช้าวันนี้ จะมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาบ้าง ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำลดลง -2.33 ตัน
สำหรับวันนี้ ติดตามผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) คาดคงนโยบายการเงินตามเดิม รวมถึงการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก CB ของสหรัฐ
เปิดสถานะซื้อ หากราคาทองคำอ่อนตัวลงไม่หลุดโซนแนวรับ 1,866-1,853 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพื่อรอขายทำกำไรหากราคาดีดตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้านบริเวณ 1,887-1,899 ดอลลาร์ต่อออนซ์
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- สัญญาณเตือนราคาทองคำ ‘ขาลง’ เมื่อนักลงทุนแห่ถอนเงินลงทุนครั้งใหญ่
- เปิดกลยุทธ์ลงทุนทองคำ YLG แนะซื้อทองช่วงนี้กำไร 2 เด้ง!!
- เปิดกลยุทธ์ลงทุนทองคำหลังราคาดิ่งหนัก! ‘YLG’ มองระยะยาวยังสดใส