ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันนี้ปิดที่ระดับ 1,483.89 จุด เพิ่มขึ้น 1.80 จุด (+0.12%) มูลค่าการซื้อขาย 112,756.84 ล้านบาท โดยระหว่างวันดัชนีแตะระดับสูงสุดที่ 1,495.37 จุด และแตะระดับต่ำสุดที่ 1,483.32 จุด
นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 593.85 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 2,635.95 ล้านบาท ขณะที่สถาบันซื้อสุทธิ 868.64 ล้านบาท และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 1,173.46 ล้านบาท
อินโฟเควสท์ รายงานว่า นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ ยังปรับตัวขึ้นได้ตอบรับ Fund Flow ที่ยังหนุนจากนักลงทุนต่างชาติยังซื้อสุทธิอยู่ แม้สถาบันในประเทศจะ Take profit ออกมาบ้างในช่วงที่ปรับขึ้นไปแรง โดยตลาดฯ ยังได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงานจากราคาน้ำมันที่ยังบวกดี หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐได้ปรับตัวลงมาต่ำกว่าที่คาดไว้
นอกจากนี้ ยังได้ปัจจัยบวกจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังพยายามที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป โดยให้มีการคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ และยังเดินหน้ามาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
ทั้งนี้ วอลุ่มเทรดโดยรวมของตลาดในวันนี้คงยังอยู่ในระดับแสนล้านบาทได้ จากที่มีการทำรายการบิ๊กล็อตหุ้น AWC และ TMB มาช่วยหนุน แต่ในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของปีนี้วอลุ่มเทรดโดยรวมอาจจะน้อย เนื่องจากใกล้เข้าวันหยุดระยะยาวช่วงเทศกาล อย่างไรก็ดี เชื่อว่าทิศทาง Fund Flow ยังเป็นตัวขับเคลื่อนตลาดได้ในต้นปีหน้า
พร้อมให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันนี้ และติดตามการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 17-18 ธ.ค.นี้ แต่คาดว่าไม่น่าจะมีอะไรมาก เพราะทุกธนาคารกลางต่างก็พยายามที่จะอัดฉีดสภาพคล่องจนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้น ส่วนบ้านเราให้จับตาทิศทางค่าเงินบาท ที่ขณะนี้ถือว่าแข็งค่ามาก โดยวันนี้เงินบาทอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 30 บาท/ดอลลาร์ฯ และถ้า Fund Flow ยังไหลเข้ามาก็ต้องจับตาค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิดมากขึ้น
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (18 ธ.ค.) นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดฯ คงจะแกว่งไซด์เวย์ และพยายามที่จะเลี้ยงตัวในแดนบวกให้ได้ พร้อมให้แนวรับ 1,480 จุด ส่วนแนวต้าน 1,500 จุด
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- คาดทั่วโลกเปิด ‘เที่ยวบินระหว่างประเทศ’ ไตรมาส 4 ปีหน้า ‘ทอท.’ เตรียมแผนรองรับ
- เปิด 3 เทรนด์การแพทย์สมัยใหม่ นำไทยสู่ Medical Hub เต็มรูปแบบ
- ‘ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง’ พ.ย. 63 เพิ่มขึ้น 0.4% แต่ ‘คอนกรีต-ซีเมนส์’ ยังติดลบ
