ฝ่ายวิจัย บล.เอเซียพลัส เปิดเผยผ่านบทวิเคราะห์ว่า มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ คาดว่า ช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน – 15 กรกฎาคม 2561 จะส่งผลให้มีเม็ดเงินโฆษณาหมุนเวียนจากการถ่ายทอดสดราว 1 หมื่นล้านบาท ลดลง 1 เท่าตัว เมื่อเทียบกับช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งก่อน
ทั้งนี้ เมื่อดูจากช่องทีวีที่ได้รับลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดบอลโลก 3 ช่อง คือ Amarin TV, TRUE4U และช่อง 5 ฝ่ายวิจัย ASP ประเมินว่า ภาพรวมกลุ่มบันเทิงจะได้รับผลกระทบ เนื่องจากพันธมิตร 9 ราย ซึ่งให้การสนับสนุนการเงินในการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดบอลโลกเท่านั้น ถึงจะมีสิทธ์ลงโฆษณาใน 3 ช่องนี้
สำหรับผู้สนับสนุนหลัก 3 ช่องดังกล่าว ประกอบด้วย กลุ่มแรก สนับสนุนการเงินรายละ 200 ล้านบาท ได้แก่ กลุ่มคิงเพาเวอร์ กลุ่มซีพี กลุ่มไทยเบฟเวอเรจ BTS GULF และ KBANK, กลุ่มสอง สนับสนุนการเงินรายละ 100 ล้านบาท ได้แก่ PTTGC, กลุ่มสาม สนับสนุนการเงินรายละ 50 ล้านบาท ได้แก่ BCP และ CBG ทีวีช่องอื่นๆ เวลาในการขายโฆษณาจะลดลง เพราะผู้ชมส่วนใหญ่ ให้นํ้าหนักการชมบอลโลก ในช่วงเย็นจนถึงดึก (19.00 – 01.00 น.) มากกว่าดูละคร หรือเกมโชว์ ซึ่งสามารถไปหาดูได้ในเวลาอื่น ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น Over-the-Top (Youtube, Mello ของช่อง 3 หรือ Bugaboo ของช่อง 7)
ขณะที่สินค้าอื่นๆ ที่ไม่ได้ร่วมเป็นผู้สนับสนุน ก็ไม่สามารถนำสิทธ์การแข่งขัน หรือแม้แต่โลโก้ไปใช้ได้ จึงมีข้อจำกัดในการซื้อโฆษณาและการทำการตลาด ส่งผลให้เอเจนซี่แต่ละราย อาจชะลอการลงโฆษณา จึงคาดว่าเม็ดเงินโฆษณาทีวีดิจิทัลจะหดหายช่วงเทศกาลฟุตบอลโลกตลอด 1 เดือนนี้
อย่างไรก็ตาม เมื่อย้อนไปดูบอลโลก 2014 หรือปี 2557 พบว่าเม็ดเงินโฆษณาช่วงเดือนมิ.ย.-ก.ค.เพิ่มขึ้น 3.7% mom จาก 9.71 พันล้านบาท เป็น 10.08 พันล้านบาท เทียบกับช่วงไม่มีบอลโลก ทั้งก่อนและหลังปี 2557 พบว่าเม็ดเงินโฆษณาช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค. ทรงตัว หรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น ยังให้นํ้าหนักหุ้นกลุ่มบันเทิง “น้อยกว่าตลาด” และยังแนะนำขาย WORK, BEC ขณะที่ RS ได้รับผลกระทบจำกัด เพราะรายได้หลักกว่า 80% มาจากธุรกิจความงาม แนะนำซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว
