ค่าเงินบาท เปิดซื้อขายเช้าวันนี้ (23 มี.ค.) ที่ระดับ 34.21 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 34.13 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 33.90-34.50 บาทต่อดอลลาร์
นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุนธนาคารกรุงไทย คาดว่า กรอบเงินบาทวันนี้ จะอยู่ที่ระดับ 34.10-34.30 บาทต่อดอลลาร์ โดยจากในสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่อ และอาจคงดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25% แต่ผู้เล่นในตลาดต่างคาดหวังว่า เฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยลง ท่ามกลางความกังวลปัญหาเสถียรภาพของระบบธนาคาร
เงินบาท มีแนวโน้มแกว่งตัว Sideways โดยมีโอกาสแข็งค่าขึ้นได้ หากนักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับมาซื้อสุทธิสินทรัพย์ไทย โดยเฉพาะหุ้น หรือ ในจังหวะที่ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น ทดสอบโซนแนวต้านแถว 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง
อย่างไรก็ดี การแข็งค่าของเงินบาท อาจถูกชะลอด้วยโฟลว์ซื้อสกุลเงินต่างประเทศของบรรดาผู้นำเข้าและบริษัทข้ามชาติญี่ปุ่น (Japanese MNCs) ทั้งสัญญาณเชิงเทคนิคัล ทั้ง RSI และ MACD ยังชี้ว่า เงินบาทมีโอกาสแกว่งตัว sideways ใกล้เส้นค่าเฉลี่ย EMA 50 วันในช่วงนี้
ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น มีโอกาสแข็งค่าขึ้นได้ หากอัตราเงินเฟ้อ PCE ออกมาสูงกว่าคาด และผู้เล่นในตลาดได้คลายกังวลปัญหาเสถียรภาพของระบบธนาคาร แต่หากตลาดยังอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off) จากความกังวลดังกล่าว เงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ ความกังวลอยู่ที่ฝั่งธนาคารยุโรป มากกว่าฝั่งสหรัฐ (กดดันสกุลเงินฝั่งยุโรปอ่อนค่าลง)
ทองคำและเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) อาจยังคงเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่ผู้เล่นในตลาดต้องการถือมากกว่าเงินดอลลาร์ได้ หากตลาดปิดรับความเสี่ยง
ทั้งนี้ ยังคงคำแนะนำว่า ในช่วงที่ตลาดการเงินยังมีความผันผวนสูง ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- แบงก์ยักษ์ ‘SVB’ ล้ม! เหตุ ‘เฟด’ คิดหนัก ‘ขึ้นดอกเบี้ย’ รอบใหม่
- ธปท. เตือน ‘เงินบาท’ ผันผวนสูง กังวล ‘เฟด’ ขึ้นดอกเบี้ยแรง
- ‘อาคม’ มอง ‘เงินบาท’ ผันผวนตามปัจจัยภายนอก ‘ธปท.’ ติดตามใกล้ชิด
