Finance

‘กสิกรไทย’ เปิดเวทีสัมมนา มอง ‘จีน’ เป็นโอกาส ท่ามกลาง ‘ความเสี่ยง’ เศรษฐกิจโลก

“กสิกรไทย” ประสานเสียงกูรู คาด “จีน” ผงาดจากเสถียรภาพทางการเมือง และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชัดเจน ขณะที่ฝั่ง “สหรัฐ-ยุโรป” เผชิญวิกฤติธนาคาร ส่อสะเทือนการฟื้นตัวเศรษฐกิจ

ธนาคารกสิกรไทย จัดงานสัมมนา “THE WISDOM Investment Forum : China Insight Unlock Wealth Opportunity in 2023” เชิญนักเศรษฐศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจการลงทุน ร่วมวิเคราะห์สัญญาณเศรษฐกิจทั่วโลก จากเหตุวิกฤติธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) จนลามมาสู่ธนาคารเครดิต สวิส (Credit Suisse) สะเทือนเสถียรภาพระบบเศรษฐกิจของสหรัฐ และยุโรป

กสิกรไทย

ในขณะที่การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนพุ่งสูงขึ้นถึง 5% ด้วยปัจจัยหลักจากความชัดเจนของทั้งนโยบายการเมือง และแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่พร้อมรับการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ ส่งผลดีกับเศรษฐกิจไทย ทั้งด้านการท่องเที่ยว

ซึ่งคาดว่าในปีนี้ จะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวนกว่า 4.65 ล้านคนเดินทางเข้ามาไทย พร้อมดันยอดส่งออกในฐานะประเทศคู่ค้าอันดับ 2 รองจากสหรัฐ ด้วยมูลค่ารวมกว่า 34,389 ล้านดอลลาร์ แนะจับตาโอกาสลงทุนใน 3 อุตสาหกรรมหลักที่จีนกำลังให้ความสำคัญ ได้แก่ กลุ่มเทคโนโลยีชั้นสูง (Deep Tech) กลุ่มอี-คอมเมิร์ซ และกลุ่มอุปโภคบริโภค

ดร.พิพัฒน์พงศ์ โปษยานนท์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า เวลานี้แม้เศรษฐกิจโลกยังมีความคลุมเครือ และความไม่แน่นอนสูง โดยเฉพาะวิกฤติการเงิน จากเหตุการณ์ของ SVB รวมถึงปัญหาเครดิต สวิส สะท้อนได้ว่าไม่ใช่แค่สหรัฐ ภูมิภาคเดียว ที่เจอปัญหาเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจ แต่ยุโรปก็กำลังเผชิญกับปัญหาเช่นกัน

กสิกรไทย
ดร.พิพัฒน์พงศ์ โปษยานนท์

ผลกระทบจะมีมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับแนวทางการจัดการของรัฐบาล และธนาคารกลางว่า จะสามารถกอบกู้ความเชื่อมั่นกลับมาได้รวดเร็วแค่ไหน

แต่สำหรับสถานการณ์ของอีกฟากหนึ่งอย่าง “จีน” บรรยากาศกลับสวนทาง โดยเฉพาะหลังการประชุมสองสภา จะยิ่งเห็นถึงความชัดเจนของทั้งนโยบายการเมือง ความพร้อมในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ตลอดจนการเริ่มเปิดประเทศของจีน เชื่อว่าจะส่งผลเชิงบวกต่อแนวโน้มของเศรษฐกิจโลก รวมถึงเศรษฐกิจไทยด้วย

จีนเปิดเมือง! จับตา 4 ปัจจัยส่งผลต่อเศรษฐกิจไทย

  • 10.99 ล้านคน คือ จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาประเทศไทยในปี 2562 (ก่อนโควิด)
  • 71,014 ล้านดอลลาร์ คือ มูลค่านำเข้าสินค้าจากจีนในปี 2565
  • 34,389 ล้านดอลลาร์ คือ มูลค่าส่งออกสินค้าจากไทยไปจีนในปี 2565
  •  77,381 ล้านบาท คือ มูลค่าการลงทุนของ 158 โครงการที่ภาคธุรกิจจีนยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ในปี 2565

กสิกรไทย

ประเมินโอกาสเศรษฐกิจไทย ท่ามกลางวิกฤติธนาคารในสหรัฐ-ยุโรป

วิกฤติการเงินในสหรัฐ และยุโรปเวลานี้ ยังเป็นประเด็นที่สำคัญให้ต้องติดตาม ซึ่ง ดร.ดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเสถียรภาพระบบการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย เชื่อว่า แม้ในระยะสั้นตลาดจะสงบลงได้ระดับหนึ่ง แต่ยังไม่สามารถไว้วางใจได้ เพราะระบบการเงินเป็นเหมือนเส้นเลือดที่ไปหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจโดยรวม มีโอกาสเป็นไปได้ว่า ถ้าเกิดวิกฤติการเงิน อาจจะไปฉุดเศรษฐกิจจีนได้เช่นกัน

แต่จีนมีความพร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจเต็มรูปแบบ โดยมีเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจอยู่ที่ 5% ซึ่งถือเป็นการตั้งตัวเลขไว้ต่ำ เพื่อเอาชนะเป้าหมาย จึงมองว่ามีโอกาสที่เงินลงทุนทั่วโลก จะเข้ามาลงทุนในจีน และฝั่งเอเชียมากขึ้น

กสิกรไทย
ดร.ดอน นาครทรรพ

สำหรับเศรษฐกิจไทย หากมองในแง่คู่ค้า ไทยส่งออกไปสหรัฐมากกว่าจีน ถ้าเกิดปัญหาฝั่งสหรัฐ ย่อมส่งผลกระทบต่อการส่งออกไทยแน่นอน แต่ในเชิงการท่องเที่ยว ไทยได้นักท่องเที่ยวจากจีนมากกว่า ซึ่งถ้าดูจากประมาณการณ์ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนกลับมาในปีนี้ประมาณ 4.65 ล้านคน จึงเชื่อว่าจะเป็นตัวผลักดันเศรษฐกิจไทยปรับตัวดีขึ้น แม้เศรษฐกิจโลกจะมีความเสี่ยงฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด

เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังมีความแข็งแกร่งทั้งด้านทุนสำรอง ความเข้มแข็งของธนาคารพาณิชย์ รวมถึงการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ถึงแม้จะมีปัญหาด้านหนี้ภาคครัวเรือนที่สูง แต่โดยรวมแล้วเชื่อว่า ถ้าไม่มีอุบัติเหตุวิกฤติการเงินโลกที่รุนแรง เศรษฐกิจไทยปีนี้จะยังคงเดินหน้าไปต่อได้

กสิกรไทย

“เสถียรภาพการเมือง-นโยบายเศรษฐกิจชัดเจน” สร้างโอกาสสดใส ลงทุนในจีน

ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร ผู้อำนวยการศูนย์จีนศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึง มุมมองต่อสถานการณ์ต่าง ๆ ของคนจีนกับต่างชาติมักแตกต่างกัน

อย่างเรื่อง ผู้นำชุดใหม่ ต่างชาติมองว่า การที่นายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง เป็นคนใกล้ชิดประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะทำให้ไม่มีใครกล้าเห็นต่าง แต่คนจีนกลับมองเป็นภาพบวก การเป็นทีมเดียวกัน นำไปสู่ความสามัคคี และยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน

ส่วนเป้าจีดีพี 5% ที่จีนประกาศออกมานั้น ได้คิดรวมความเสี่ยงของปัจจัยภายนอก ที่มีความไม่แน่นอนด้วยแล้ว ฉะนั้นถามว่าวิกฤติการเงินฝรั่งจะลามมาเป็นวิกฤติการเงินจีนหรือไม่ คงไม่เกิดผลกระทบตรงนี้ เพราะระบบการเงินของจีนค่อนข้างปิด รัฐบาลคุมหนักในเรื่องดังกล่าว แต่ถ้าในแง่เศรษฐกิจโลกที่ไม่ดีอาจฉุดเศรษฐกิจจีนได้ เพราะจีนเป็นเศรษฐกิจการส่งออก ถือได้ว่าเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ของโลก

กสิกรไทย
ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร

ขณะที่ นายภัทรพงศ์ กัณหสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า เวลานี้กิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศของจีนเริ่มฟื้นกลับมาเป็นปกติ โดยเชื่อว่าปี 2566 จะเป็นปีที่ดีที่สุดของจีน เพราะตลอดช่วง 3 ปีของการเกิดโควิด-19 คนจีนไม่ได้มีการเดินทาง ทำแต่งานเพียงอย่างเดียว ส่งผลให้มีเงินออมเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล และเงินก้อนนี้เองที่เตรียมพร้อมจะนำออกมาลงทุน หรือนำออกมาใช้หลังจากที่เปิดประเทศแล้ว

สำหรับโอกาสที่น่าสนใจในการลงทุนมองว่า จะอยู่ในอุตสาหกรรมที่ล้อไปกับการส่งเสริมและสนับสนุนของรัฐบาลจีน เช่น กลุ่ม Deep Tech หรือเทคโนโลยีขั้นสูง เนื่องจากรัฐบาลจีนพยายามที่จะผลักดัน ให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมในด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อใช้ในการแข่งขันกับโลกตะวันตก

กสิกรไทย
ภัทรพงศ์ กัณหสุวรรณ

เช่นเดียวกับ นายทิวา ชินธาดาพงศ์ นักลงทุนไทย ผู้มองการลงทุนในจีนว่า เป็นโอกาสที่ดี ยิ่งในระยะยาวด้วยแล้วยิ่งมีโอกาส อย่างปีที่แล้วจะเห็นว่า การที่รัฐบาลสั่งลงดาบบริษัทยักษ์ใหญ่หลายราย มองว่าไม่ใช่การจะฆ่าให้ตาย แต่เป็นเพียงการจัดระเบียบ ซึ่งปีนี้เริ่มผ่อนคลาย และปล่อยให้เดินหน้าไปได้ต่อ

วิธีคิดของจีนคือ Innovation first and then regulation คือ ปล่อยให้พัฒนานวัตกรรมไปอย่างเต็มที่ก่อน แล้วค่อยจัดระเบียบภายหลัง สวนทางกับฝั่งสหรัฐ คือ Innovation first and then no regulation ปล่อยให้เป็นอิสระอย่างเต็มที่ กับการพัฒนานวัตกรรมโดยไม่มีการจัดระเบียบ

จึงเชื่อว่า ประเทศจีนผ่านการวางรากฐานเศรษฐกิจ พร้อมทั้งดำเนินการปราบปรามคอรัปชันไว้แล้ว หากไม่มีอะไรมาฉุดไว้ สเต็ปถัดไปคือ การเติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างแน่นอน

กสิกรไทย
ทิวา ชินธาดาพงศ์

พร้อมแนะนำโอกาสสำหรับการลงทุน โดยเฉพาะในกลุ่มอุปโภคบริโภคมีความโดดเด่นน่าสนใจ เพราะจีนมีความต้องการที่จะเพิ่มชนชั้นกลางจาก 300-400 ล้านคน ให้เพิ่มเป็นเท่าตัว จึงกลายเป็นตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตสูง

เช่นเดียวกับกลุ่มอีคอมเมิร์ซ หรือค้าปลีกออนไลน์จีนที่มีการเติบโตอย่างมหาศาล โดยปีที่แล้วมีมูลค่าถึง 44 ล้านล้านหยวน และมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้ถึง 100 ล้านล้านหยวนในอนาคต

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo