Finance

‘กสิกรไทย’ เร่งเครื่องดิจิทัล แห่ใช้แอป ‘K PLUS’ เพิ่ม 2 ล้านราย ยอดเงินธุรกรรมแตะ 10 ล้านล้านบาท

“กสิกรไทย” มุ่งเสริมแกร่งสถานะ “ผู้นำธนาคารดิจิทัล” เพียง 6 เดือน หลังประกาศแผนผสานความเป็น“ชาเลนเจอร์แบงก์” เข้ามาในองค์กร ทำให้บริการของธนาคารเข้าถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับทุกคน เผยยอดผู้ใช้ “K PLUS” ปี 2565 เพิ่มขึ้น 2 ล้านราย ยอดทำธุรกรรมผ่านแอป K PLUS แตะ 10 ล้านล้านบาท

วันนี้ (21 มี.ค.66) ธนาคารกสิกรไทย (KBank) เปิดเผยยอดการใช้งานแพลตฟอร์มดิจิทัลของธนาคาร เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด เพียงแค่ 6 เดือน หลังประกาศแผนผสานความเป็น “ชาเลนเจอร์แบงก์” เข้ามาในองค์กร เพื่อเปิดโอกาสให้คนจำนวนมากขึ้น สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการของธนาคารได้ โดยการทำให้บริการธนาคารเรียบง่ายขึ้น ด้วยการนำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาใช้

กสิกรไทย

นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่าในปี 2565 มีคนจำนวนมากกว่า 2 ล้านคน สมัครใช้งานแอปพลิเคชัน “K PLUS” ของธนาคาร โดยในจำนวนนี้มีมากกว่า 1 ล้านคน เป็นผู้ที่เพิ่งใช้บริการเป็นครั้งแรก ซึ่งความนิยมแพลตฟอร์มดิจิทัลของธนาคารกสิกรไทยที่เพิ่มขึ้นนี้ ทำให้ธนาคารกสิกรไทยเดินหน้าสู่การเป็นธนาคารดิจิทัลอย่างเต็มภาคภูมิ และปัจจุบันธุรกรรมของธนาคารกสิกรไทย เป็นธุรกรรมที่ทำผ่านระบบออนไลน์ถึง 98%

นางสาวขัตติยากล่าวว่า ผลจากการเติบโตของธุรกรรมออนไลน์ดังกล่าว ทำให้ธนาคารกสิกรไทยสร้างสถิติใหม่ เป็นครั้งแรกที่ยอดเงินโอนผ่าน K PLUS มากกว่ายอดเงินโอนผ่านช่องทางอื่น ๆ ทั้งหมดของธนาคารรวมกัน ทั้งการทำธุรกรรมที่สาขาธนาคาร เครื่องทำรายการอิเล็กทรอนิกส์ และตัวแทนธนาคาร

“ด้วยเทคโนโลยีของเรา ทำให้คนจำนวนมากขึ้นได้รับประโยชน์จากบริการธนาคาร ในแต่ละชั่วโมงมีจำนวนธุรกรรมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประมาณ 1 ล้านรายการต่อชั่วโมง”

ธนาคารดิจิทัล
ขัตติยา อินทรวิชัย

นอกจากนั้น ยอดเงินที่เป็นการทำธุรกรรมผ่านแอป K PLUS ยังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมียอดเงินสูงเกือบ 10 ล้านล้านบาทในปี 2565 การเติบโตดังกล่าวตอกย้ำ ความเป็นผู้นำของกสิกรไทย ในฐานะธนาคารดิจิทัลอันดับหนึ่งของไทย

นางสาวขัตติยากล่าวว่า ความนิยมที่เพิ่มขึ้นทำให้เรามีความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ตามไปด้วย ที่จะต้องก้าวล้ำไปข้างหน้ากับเทคโนโลยีต่าง ๆ อยู่เสมอ เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการธนาคารได้อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ด้วยระบบที่มีเสถียรภาพสูง ก็เพราะวิสัยทัศน์ของเรามองไปไกลเกินกว่าขอบเขตประเทศไทย โดยเป้าหมายของเราอยู่ที่การเป็นผู้นำการให้บริการธนาคารดิจิทัลที่ดีที่สุดระดับภูมิภาค 

นอกจากนี้ ธนาคารยังให้ความสำคัญในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยการใช้บริการ K PLUS โดยนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ในการป้องกัน และตรวจจับธุรกรรมที่ผิดปกติ ควบคู่ไปกับการใช้งานที่สะดวกและเหมาะสมกับลูกค้าทุกกลุ่มของธนาคาร

แพลตฟอร์มออนไลน์ของธนาคารกสิกรไทย กำลังช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยในการทำธุรกิจระหว่างประเทศ ด้วยการมอบต้นทุนทางด้านการเงินที่ต่ำกว่า และเป็นธนาคารเดียวในประเทศไทยที่ไม่ถูกหักค่าธรรมเนียมการโอนจากธนาคารตัวกลาง สำหรับการโอนเงินจากประเทศไทยไปยัง 32 ประเทศคู่ค้า

ธนาคารดิจิทัล

บริการ “LINE BK” ช่วยลูกค้าไร้ “รายได้-เงินเดือน” ประจำ

ในปี 2565 ธนาคารยังจับมือกับ “ไลน์” (LINE) เปิดตัว “LINE BK” เพื่อให้บริการธนาคารผ่านทางโซเชียลมีเดีย มีการเติบโตขึ้นอย่างชัดเจน มีผู้ใช้บริการรายใหม่เพิ่มขึ้นมากกว่า 1,400,000 ราย  สิ้นปี 2565 มียอดสินเชื่อปล่อยกู้ผ่าน LINE BK กว่า 18,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการให้กู้ยืมแก่ลูกค้าที่ไม่มีรายได้ประจำหรือไม่มีเงินเดือนประจำ เช่น คนทำงานอิสระ และผู้ประกอบธุรกิจรายย่อยอื่น ๆ

“เนื่องจากคนที่ประกอบอาชีพเหล่านี้ มักจะไม่มีรายได้ประจำหรือไม่มีสลิปเงินเดือน  ทำให้พวกเขามีความยากลำบากในการได้รับอนุมัติเงินกู้จากธนาคาร เพื่อที่จะนำมาช่วยเหลือตัวเองในช่วงเวลายากลำบากที่เกิดขึ้นเป็นครั้งเป็นคราว และบ่อยครั้งก็ทำให้เขาต้องหันไปหาเงินกู้นอกระบบ” นางสาวขัตติยา กล่าว

ธนาคารดิจิทัล

LINE BK ในฐานะผู้ให้บริการผลิตภัณฑ์ และบริการธนาคารผ่านโซเชียลมีเดียเพียงรายเดียวของไทย มีบทบาทสำคัญในการทำให้เป้าหมายของธนาคารกสิกรไทย ในการผสานความเป็นชาเลนเจอร์แบงก์เข้ามาในองค์กรประสบความสำเร็จ

เนื่องจาก LINE BK ช่วยให้คนไทยที่ยังเข้าไม่ถึงบริการธนาคารหรือเข้าถึงได้ยาก สามารถเข้าถึงบริการธนาคารได้ แม้จะเป็นผู้ที่ไม่มีบัญชีธนาคาร ก็สามารถสมัครขอสินเชื่อผ่าน LINE BK ได้ โดยจะทราบผลการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อภายใน 24 ชั่วโมง บริการนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระ ผู้ให้บริการอิสระ และเจ้าของแผงค้าขายขนาดเล็ก อีกทั้งยังเป็นก้าวแรกที่นำคนเหล่านี้เข้าสู่ระบบธนาคาร ทำให้มีประวัติเครดิต  ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการขยับขยายกิจการในอนาคตได้ด้วย

LINE BK ใช้ระบบเอไอในการวิเคราะห์ข้อมูล และข้อมูลสมัยใหม่อื่น ๆ เช่น ข้อมูลพฤติกรรมจากบริการที่เกี่ยวข้องของ LINE ได้รับอนุญาตจากผู้สมัครขอสินเชื่อก่อน เพื่อประเมินความสามารถ และความตั้งใจในการชำระคืนเงินกู้ของผู้กู้

ธนาคารดิจิทัล

“ชาเลนเจอร์แบงก์” ปรากฏการณ์ “ดิสรัปชั่น” วงการธนาคาร

เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่ผ่านมา ธนาคารกสิกรไทยได้ประกาศเดินหน้าโครงการเชิงกลยุทธ์ที่เรียกว่าการผสานความเป็น “ชาเลนเจอร์แบงก์” เข้ามาในองค์กร ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อที่จะขยายการเข้าถึงเงินกู้และบริการต่างๆ ของธนาคารให้กับคนไทยที่ยังเข้าไม่ถึงบริการธนาคารหรือเข้าถึงได้ยาก มีอยู่ประมาณ 30 ล้านคน

“ชาเลนเจอร์แบงก์” เป็นปรากฏการณ์ดิสรัปชั่นของวงการธนาคาร ที่มาท้าทายธนาคารหลักต่าง ๆ ในหลายประเทศ ด้วยการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาช่วยเหลือธุรกิจขนาดย่อมและผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน หรือไม่มีรายได้ประจำ เวลาที่คนกลุ่มนี้ยื่นขอสินเชื่อ จะมีโอกาสได้รับการประเมินขีดความสามารถ และประเมินความตั้งใจในการชำระคืนเงินกู้อย่างรอบด้านมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ “ชาเลนเจอร์แบงก์” ยังดึงดูดลูกค้าของธนาคารในปัจจุบัน ด้วยการกำจัดกระบวนการที่ขาดความคล่องตัวให้บริการที่รวดเร็วกว่า ใช้งานง่ายกว่า และสามารถเข้าถึงได้ทุกที่ตลอดเวลา

ธนาคารดิจิทัล

นางสาวขัตติยา อธิบายกลยุทธ์ของธนาคารกสิกรไทยว่า เป็นการหลอมรวมดีเอ็นเอของความเป็น“ชาเลนเจอร์แบงก์” เข้าไปในแก่นของธนาคารกสิกรไทย ซึ่งประสบความสำเร็จอยู่แล้วในฐานะธนาคารในยุคปัจจุบัน ที่ได้รับการยอมรับเชื่อถือในความสามารถในการตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม

ภายใต้โครงการดังกล่าวนี้ ธนาคารกสิกรไทยได้จัดสรรงบประมาณ 22,000 ล้านบาท เพื่อลงทุนด้านเทคโนโลยี ในช่วงปี 2565-2567

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo