“ค่าเงินบาท” เปิดเช้าวันนี้ (15 ธ.ค.) ที่ระดับ 34.53 บาทต่อดอลลาร์ แตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 6 เดือน และแข็งค่าจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 34.57 บาทต่อดอลลาร์ กรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.50-34.70 บาทต่อดอลลาร์
นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย มองว่า แม้เงินบาทจะแข็งค่าขึ้นบ้างในช่วงเมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ และโฟลว์ขายทำกำไรทองคำ แต่ก็มีแนวโน้มเคลื่อนไหวผันผวนในฝั่งอ่อนค่าบ้าง หากบรรยากาศในตลาดการเงินเอเชียพลิกกลับมาอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยงบ้าง
เช่นเดียวกับในฝั่งตลาดการเงินสหรัฐ ซึ่งอาจเห็นแรงขายทำกำไรหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติได้บ้าง โดยนักลงทุนต่างชาติบางส่วน ก็อาจทยอยขายทำกำไรบอนด์ไทยทั้งระยะสั้น และระยะยาวเพิ่มเติมได้ หลังบอนด์ยีลด์ไทยได้ปรับตัวลงมาพอสมควร และจากผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ล่าสุด ก็อาจทำให้บอนด์ยีลด์แกว่งตัว sideways ได้ในระยะสั้นนี้
แนวรับสำคัญของเงินบาทอาจอยู่ในช่วง 34.50 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่ผู้เล่นบางส่วน อาจทยอยขายทำกำไรการแข็งค่าต่อเนื่องของเงินบาทออกมาบ้าง ในขณะที่โซนแนวต้านสำคัญนั้น เงินบาทจะไม่ได้อ่อนค่าไปมาก จนทะลุโซนแนวต้านสำคัญที่ระดับ 35.00 บาทต่อดอลลาร์ เนื่องจากผู้เล่นส่วนใหญ่ต่างก็รอจังหวะเงินบาทอ่อนค่า เพื่อทยอยขายเงินดอลลาร์ หรือ เพิ่มสถานะ Short USDTHB (มองว่า เงินบาทจะแข็งค่าขึ้น)
ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ผันผวนสูงในช่วงที่ผ่านมาได้สะท้อนถึงความจำเป็นของการใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทำให้เราคงแนะนำ ผู้ประกอบการควรใช้กลยุทธ์ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้ Options ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงได้ดีในช่วงที่ตลาดผันผวนหนัก
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘อาคม’ มอง ‘เงินบาท’ ผันผวนตามปัจจัยภายนอก สั่ง ‘ธปท.’ ติดตามใกล้ชิด
- ‘ธปท.’ จับตา ‘เงินบาท’ ผันผวน ยังไม่พบเงินทุนไหลออกผิดปกติ
- มีบทเรียนจากปี 40! ‘ผู้ว่า ธปท.’ ยันไม่ฝืนตลาด ชี้ ‘ดอลลาร์’ แข็ง สาเหตุหลักกดดัน ‘เงินบาท’
