Stock - Finance

ส่องกำไร PTT แนวโน้มแข็งแกร่งได้บริษัทลูกหนุน

ปตท. เตรียมประกาศผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3 ปีนี้ ช่วง 13 พ.ย.นี้  ลุ้นแนวโน้มรายได้-กำไรของบริษัทจะเป็นอย่างไร 

หุ้นมหาชน PTT หรือ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เตรียมประกาศผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3 ปี 2566 ในวันที่ 13 พฤศจิกายนนี้ เพราะฉะนั้นเราจะพามาพรีวิวกันว่า แนวโน้มรายได้-กำไรของบริษัทจะเป็นอย่างไร สรุปภาพรวมของแต่ละกลุ่มธุรกิจ พร้อมมุมมองการลงทุน

บทวิเคราะห์ บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ เปิดเผยว่า คาดแนวโน้มกำไรสุทธิไตรมาส 3/2566 ของ PTT จะเพิ่มขึ้น 56% จากไตรมาสที่ผ่านมา และเติบโตมากกว่า 3 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยประเมินกำไรจะสูงถึง 1.4 หมื่นล้านบาท

รายได้

โดยปัจจัยหนุนสำคัญจะมาจากส่วนแบ่งกําไร ที่แข็งแกร่งจากบริษัทร่วมที่ประกอบธุรกิจปิโตรเคมีและโรงกลั่น (P&R) ซึ่งเกิดจาก market GRM ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และกําไรสต็อกคาดว่าจะฟื้นตัวจากขาดทุน 2.7 พันล้านบาท สู่กําไรมากกว่า 2 หมื่นล้านบาท หลักๆ เกิดจากธุรกิจกลั่นนํ้ามัน

รายได้ ไตรมาส 3 ปีนี้

ขณะที่กําไรจากธุรกิจก๊าซธรรมชาติคาดจะทรงตัว โดยปริมาณการขายก๊าซฯ ของ PTT คาดจะเพิ่มขึ้น 12% YoY แต่ลดลง 5% QoQ อยู่ที่ประมาณ 4,596 mmcfd โดยมีสาเหตุมาจากปริมาณการใช้ก๊าซฯ ที่ลดลงของโรงไฟฟา เนื่องจากมีการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังนํ้ามากขึ้น ทว่าบริษัทจะได้รับการชดเชยบางส่วนจากยอดขายก๊าซฯ ให้กับโรงแยกก๊าซฯ (GSP) และลูกค้าอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

รายได้

เช่นเดียวกับธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม (E&P) ยังคงมีทิศทางแข็งแกร่ง แต่อาจจะชะลอตัวลง เพราะต้นทุนต่อหนวยที่ขยับขึ้น และการปรับปรุงรายการภาษีเงินได้ โดยคาดวาธุรกิจ E&P จะคิดเป็น 38% ของกําไรโดยรวมในไตรมาส 3/2566 ของ PTT เทียบกับคาเฉลี่ย 5 ปี ที่มากกว่า 40% ซึ่งลดลงเนื่องจากผลการดําเนินงานของธุรกิจ P&R ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสําคัญ

ส่วนกําไรจากธุรกิจค้าปลีกนํ้ามัน น่าจะดีขึ้นแม้ปริมาณการขายจะลดลง โดยได้รับการสนับสนุนจากกําไรสินค้าคงเหลือและกําไรอัตราแลกเปลี่ยนที่สูงขึ้น ส่วนปริมาณการขายที่ลดลงตามฤดูกาลสําหรับตลาดค้าปลีกนํ้ามัน คาดว่าจะส่งผลกระทบให้ปริมาณการขายโดยรวมของกลุ่มธุรกิจ Mobility ลดลง 2% QoQ แต่เพิ่มขึ้น 7.7% YoY สู่ 6.7 พันล้านลิตร ในไตรมาส 3/2566

สำหรับมุมมองเชิงบวก (Bullish views) ต่อหุ้น PTT ด้วยกัน 3 ประเด็น ดังนี้

1. การประกอบธุรกิจพลังงานและปิโตรเคมีแบบครบวงจร จะช่วยป้องกันไม่ให้ผลการดําเนินงานของ PTT ได้รับผลกระทบจากราคานํ้ามันที่ผันผวน

2. ปริมาณขายก๊าซของ PTT คาดว่าจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นได้ในระยะกลาง จากการใช้ไฟ้ฟ้าเพิ่มขึ้นเมื่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจปรับตัวเพิ่มขึ้น

3. ความต้องการใช้นํ้ามันในประเทศฟื้นตัวสู่ระดับก่อน COVID แล้ว โดยเฉพาะนํ้ามันดีเซลและเบนซินขณะที่ความต้องการใช้นํ้ามันเชื้อเพลิงอากาศยานจะค่อยๆ ฟื้นตัวสู่ระดับก่อนเกิด COVID ซึ่งคาดจะช่วยสนับสนุนกําไรของธุรกิจนํ้ามันและบริษัทร่วมที่ประกอบธุรกิจโรงกลั่นนํ้ามันของ PTT ในปี 2566

รายได้

สุดท้ายนี้ PTT ถือเป็นหุ้นที่มีจุดเด่นในฐานะผู้ประกอบธุรกิจพลังงานและปิโตรเคมีแบบครบวงจร ทำให้สามารถผ่านผ้นวิกฤติราคาน้ำมันที่ผันผวนไปได้อย่างแข็งแกร่ง ประกอบกับการที่ทิศทางเศรษฐกิจโลกยังไม่แน่นอน ธุรกิจขนาดใหญ่อย่าง PTT จึงน่าสนใจ ซึ่งเป็นบริษัทที่มีงบดุลแข็งแรง อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนอยู่ที่ 0.2-0.3 เท่าในระยะ 3 ปีข้างหน้า จึงน่าจะช่วยป้องกันไม่ให้บริษัทได้รับผลกระทบจากราคานํ้ามันที่ผันผวนในอนาคต

ราคาหุ้น PTT ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 2% YTD แต่ outperform SET ที่ -15% ประกอบกับ valuation ไม่แพงที่ PBV 0.9 เท่า P/E 9.2 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ 1.3 เท่า และ 14.6 เท่า ตามลําดับ ส่งผลให้ บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ คงคำแนะนำ OUTPERFORM หุ้น PTT ด้วยราคาเป้าหมาย 45 บาท นอกจากนี้ ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 5.9% ก็ดูน่าสนใจเช่นกัน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน