Stock - Finance

‘ช.การช่าง’ ลุ้นงานในมือทะลุ 2 แสนล้าน!!

“ช.การช่าง” ลุ้นงานในมือทะลุ 2 แสนล้าน จากเมกะโปรเจกต์

เมื่อพูดถึงผู้นำในหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง คงหนีไม่พ้น CK หรือ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap.) สูงกว่า 32,000 ล้านบาท ด้วยธุรกิจที่ครบวงจรทั้งรับเหมาก่อสร้าง ตลอดจนการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานต่างๆ เช่น คมนาคมขนส่ง พลังงาน และการผลิตจำหน่ายน้ำประปาและบริหารจัดการน้ำเสีย

สำหรับในช่วงโค้งแรกของปี 2566 ที่ผ่านมา CK มีปัจจัยหนุนเข้ามา หลังศาลปกครองสูงสุด พิพากษายกฟ้องคดียกเลิกการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มในกรณีที่ BTS ฟ้องร้องขอให้ยกเลิกการประมูลรถไฟฟ้ําสายสีส้ม โดยศาลปกครองสูงสุดชี้ว่าเป็นกระทำโดยชอบด้วยกฎหมาย

เป็นผลให้ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) สามารถเดินหน้าลงนามในสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีส้มกับผู้ชนะการประมูลรอบที่ผ่านมาอย่าง BEM หรือ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และส่งผลบวกต่อ CK ในท้ายที่สุด

ทั้งนี้ บทวิเคราะห์ บล. บียอนด์ ให้มุมมองต่อหุ้น CK เกี่ยวกับประเด็นนี้ว่า จะช่วยงานในมือ (Backlog) ของบริษัทมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น และสามารถทำลายสถิติสูงสุดใหม่ที่ระดับ 250,000 ล้านบาทได้สำเร็จ จากปัจจุบันที่ CK มี Backlog ประมาณ 56,000 ล้านบาท

ลุ้นงาน

โดยส่วนใหญ่จะมาจาก Megaproject จำนวน 2 โครงการ ได้แก่
1.  โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) มูลค่า 127,000 แสนล้านบาท
2. โครงการโรงไฟฟ้ําหลวงพระบาง มูลค่า 85,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า(PPA ) ภายในปีนี้

เป้าหมาย Backlog จำนวน 250,000 ล้านบาท บริษัทจะทยอยรับรู้รายได้ในอีก 8 ปีข้างหน้า  คาดว่าจะทำให้ CK มีรายได้เฉลี่ยประมาณ 30,000 ล้านบาทต่อปี แต่อัตรากำไรขั้นต้นของ megaproject อย่างเช่นรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีส้ม จะอยู่ที่ประมาณ 7-8%  ต่ำกว่าอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทในปี 2565 ที่ 9% ในขณะที่อัตรากำไรสุทธิของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างอาจจะอยู่ที่ 3-4%

อย่างไรก็ตาม บล. บียอนด์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น CK ประเมินราคาเป้าหมายที่ 27 บาทต่อหุ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุน 3 ประเด็น ได้แก่ Backlog ที่มีคุณภาพดี, มีโอกาสจะได้รับงานใหม่เพิ่มเข้ามาอีก และมีรายได้จากเงินปันผลและส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทย่อยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

กลุ่ม ช.การช่าง

นอกจากนี้ ประมาณการผลการดำเนินงานในปี 2566 ของ CK เป็นดังนี้
– รายได้รวม 27,554 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 50% จากปีก่อน
– กำไรสุทธิ 1,870 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 70% จากปีก่อน
– อัตราผลตอบแทนเงินปันผล (Dividend yield) อยู่ที่ 2.40%

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของหุ้น CK ตั้งแต่ต้นปี (Year to Date) ณ วันที่ 12 มิถุนายน 2566 ราคาหุ้นปรับตัวลดลงมาแล้วถึง -20.50% เทรดกันที่ P/E Ratio 26.80 เท่า และ P/BV Ratio 1.33 เท่า  ราคาหุ้นปัจจุบันวิ่งในระดับ 19 บาทต่อหุ้น แปลว่ายังเหลืออัพไซด์ให้เล่นอยู่ประมาณ 30-40% เลยทีเดียว

อ่านข่าวเพิ่มเติม 

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน