Stock - Finance

ทำไมกลุ่ม ‘ช.การช่าง’ กำไรโตกระโดดยกแผง!!

 กลุ่ม ช.การช่าง กำไรโตกระโดด ส่วนใหญ่สามารถทำรายได้ และกำไรเติบโตแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ธุรกิจโรงไฟฟ้า ธุรกิจทางด่วนและรถไฟฟ้า

ในตลาดหุ้นไทยมีบริษัทในอาณาจักรธุรกิจ “ช.การช่าง” ของตระกูล“ตรีวิศวเวทย์” ประกอบไปด้วย CK หรือ บริษัทช.การช่าง จำกัด (มหาชน), CKP หรือ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน), BEM หรือ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และ TTW บริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) ล่าสุดได้รายงานผลประกอบการประจำปี 2565 ออกมาครบถ้วนแล้ว พบว่าส่วนใหญ่สามารถทำรายได้และกำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็น

กลุ่ม ช.การช่าง ทำรายได้ กำไรเติบโตแข็งแกร่ง

ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง CK รายได้รวม 19,660.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.35% กำไรสุทธิ 1,120.84 เพิ่มขึ้น 20.07% เนื่องจากรายได้จากสัญญาก่อสร้างที่ปรับตัวขี้นจากการรับรู้รายได้ในการก่อสร้างทั้งโครงการที่มีอยู่เดิมและโครงการใหม่ เช่น โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ สัญญาที่ 2 ช่วงงาว-เชียงราย และสัญญาที 3 ช่วงเชียงราย-เชียงของ และ PreliminaryConstruction Works พร้อมกันนี้ยังมาจากส่วนแบ่งกำไรเงินลงทุนในบริษัทร่วม ทั้ง CKP ที่มีรายได้จากการขายไฟฟ้และไอนํ้าเพิ่มขึ้น รวมถึง BEM ที่มีปริมาณผู้ใช้ทางด่วนและผู้โดยสารรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างมาก

กลุ่ม ช.การช่าง

ธุรกิจโรงไฟฟ้า CKP รายได้รวม 11,418.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.30% กำไรสุทธิ 2,436.18 เพิ่มขึ้น 11.80% ซึ่งเป็นกำไรสุทธิที่สูงที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท เนื่องจากผลการดำเนินงานที่เติบโตต่อเนื่องในทุกมิติ รวมไปถึงการที่โรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี (XPCL) มีปริมาณน้ำไหลผ่านเฉลี่ยมากกว่าปีก่อน ส่งผลให้ปริมาณการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ธุรกิจทางด่วนและรถไฟฟ้า BEM รายได้รวม 14,030 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.80% กำไรสุทธิ 2,436 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 141.20% เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ส่งผลให้การเดินทางเพิ่มขึ้น ปริมาณรถที่ใช้ทางด่วนและปริมาณผู้โดยสารกลับเข้าใกล้เคียงกับก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

กลุ่ม ช.การช่าง

ทั้งนี้ มีเพียงธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำประปาของ TTW เท่านั้น ที่ทำผลงานปี 2565 หดตัวลง โดยมีรายได้รวม 5701.2 ล้านบาท ลดลง 2% กำไรสุทธิ 2,967 ลดลง 4.40% โดยส่วนใหญ่เกิดจากรายได้จากการขายน้ำประปาลดลงและต้นทุนเพิ่มขึ้น เนื่องจากการปรับค่าไฟฟ้าผันแปร และราคาสารเคมีที่แพงขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

อย่างไรก็ดี ทุกบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของอาณาจักร ‘ช.การช่าง’ ยังคงโชว์ฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยประกาศจ่ายปันผลจากงวดผลการดำเนินงานปี 2565 ออกมาพร้อมเพรียงกัน ดังนี้

CK จ่ายปันผล 0.10 บาทต่อหุ้น

วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 13 มีนาคม 2566 และกำหนดจ่ายปันผลวันที่ 23 พฤษภาคม 2566

กลุ่ม ช.การช่าง

CKP จ่ายปันผล 0.085 บาทต่อหุ้น

วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 3 พฤษภาคม 2566 และกำหนดจ่ายปันผลวันที่ 22 พฤษภาคม 2566

BEM จ่ายปันผล 0.12 บาทต่อหุ้น

วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 8 มีนาคม 2566 และกำหนดจ่ายปันผลวันที่ 3 พฤษภาคม 2566

TTW จ่ายปันผล 0.30 บาทต่อหุ้น

วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 8 มีนาคม 2566 และกำหนดจ่ายปันผลวันที่ 25 เมษายน 2566

ทั้งหมดนี้เป็นการสะท้อนความแข็งแกร่งของหุ้น “กลุ่ม ช.การช่าง” ซึ่งไม่ได้มีดีแค่ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างเท่านั้น แต่ได้ต่อยอดการเติบโตไปสู่ธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อผสานโอกาสและผลักดันธุรกิจให้สามารถสร้างการเติบโตได้อย่างโดดเด่นในตลาดหุ้นไทย

อ่านข่าวเพิ่มเติม 

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน