ปัญหาควันพิษในเขตเมือง ส่งผลต่อสุขภาพประชาชน และก่อปัญหาโลกร้อน ขณะเดียวกันก็มีการพัฒนาประสิทธิภาพแบตเตอรี่ จนทำให้ราคาลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีการนำยานยนต์ไฟฟ้ามาใช้อย่างแพร่หลายในหลายประเทศ เช่น จีน สหรัฐ และ ญี่ปุ่น
ข้อมูลของ International Energy Agency ระบุว่า ปี 2555 มียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก 113,000 คัน คาดว่าปี 2563 จะมียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 6 ล้านคัน มีรถยนต์ไฟฟ้า 20 ล้านคันทั่วโลก อันเนื่องจากรัฐบาลหลายประเทศ มีการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจัง
ประเทศไทยก็ประสบกับปัญหาควันพิษ และฝุ่นละอองอย่างหนักหน่วงก่อนหน้านี้ ประกอบกับมีอุตสาหกรรมยานยนต์ที่แข็งแกร่ง และรัฐบาลมีแผนส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าเช่นเดียวกัน เพื่อให้อุตสาหกรรมยานยนต์ปรับเปลี่ยนได้ทันกระแสโลก ทั้งมาสนับสนุนแผนอนุรักษ์พลังงาน การใช้รถยนต์ไฟฟ้าจึงได้รับการผลักดันมาตามลำดับ
บริษัท เออร์เบิน โมบิลิตี้ เทค จำกัด สตาร์ทอัพของไทย เล็งเห็นการเติบโตของกระแสนี้ พร้อมกับปัญหาของการใช้รถยนต์ในเขตเมือง โดยเฉพาะรถเพื่อการท่องเที่ยว จึงมีแนวคิดพัฒนานวัตกรรมรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าขึ้น ช่วยลดมลพิษ ทั้งมีความกระทัดรัด คล่องตัว เหมาะสำหรับใช้ขับขี่ในเมือง
ดร.กฤษดา กฤตยากีรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เออร์เบิน โมบิลิตี้ เทค จำกัด บอกว่า รถตุ๊กตุ๊กเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย ที่นักท่องเที่ยวต้องการมาสัมผัส จึงพัฒนารถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าขึ้น โดยเอาปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด มาเป็นตัวนำ เพื่อนำไปสู่การแก้ไข ทั้งลดปัญหามลพิษ ทำให้รถตุ๊กตุ๊กเหมาะกับสมกับการใช้งานของคนทุกเพศทุกวัย และต้องการสร้างความปลอดภัย สร้างมาตรฐานราคา ผ่านการใช้งานด้วยแอปพลิเคชั่น
โดยได้เริ่มต้นพัฒนารถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าขึ้น เมื่อ 2 ปีก่อน และมีการทดลองใช้งานมาอย่างต่อเนื่อง จนได้รับการตอบรับอย่างสูงจากนักท่องเที่ยว คุณสมบัติเด่นที่พัฒนาขึ้น คือ โครงสร้างเป็น space frame พื้นเตี้ย ทำให้ผู้หญิง หรือคนที่มีน้ำหนักตัวมาก ขึ้นรถได้ง่าย มีระบบควบคุมแบบ feedback control ในการควบคุมความเร็ว และความสมดุลของรถ ส่งผลให้มีความปลอดภัยสูงกว่ารถตุ๊กตุ๊ก ที่ขับขี่อยู่บนท้องถนนในปัจจุบัน
นอกจากนี้ยังมีระบบบริหารจัดการพลังงานให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุด วางแผน และแจ้งเตือนการประจุแบตเตอรี่ และสถานีประจุผ่านหน้าจอแสดงผล และยังได้ทำการพัฒนาระบบประจุแบตเตอรี่ ทำให้การชาร์จ 1 ครั้งใช้เวลาเพียง 30 นาที ต่อการวิ่ง 80 กม.
“เรามี 2 โครงการทำคู่กันในเวลานี้ คือ ” MuV: รถตุ๊กตุ๊กคนเมืองพลังงานไฟฟ้า” ได้รับการสนับสนุนจากสำนักนวัตกรรมแห่งชาติ ปัจจุบันผลิตออกวิ่งแล้ว 15 คัน พร้อมกับพัฒนาแอปพลิเคชัน “MuvMi : มูฟมี เรียกรถแบบ “On-Demand” หรือ เรียกเมื่อไหร่ก็ได้ตามต้องการ”
ระบบจะบริหารจัดการให้ผู้ที่จะเรียกรถไปในเส้นทางเดียวกันหรือบริเวณใกล้เคียงกัน สามารถไปรถคันเดียวกันได้ มีจุดรับส่งกว่า 140 จุดในกรุงเทพฯ ประกอบด้วย 2 เส้นทางหลัก ได้แก่ เส้นทางรอบจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถานที่ใกล้เคียง และเส้นทางรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีอารีย์ ไปจนถึงรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที สถานีกำแพงเพชร ค่าบริการต่อเที่ยวเริ่มต้นที่ 15 บาท สูงสุด 75 บาท สูงสุด 6 ที่นั่งต่อรถ 1 คัน
หลังจากวิ่งมาได้กว่า 2 ปีได้รับการตอบรับอย่างสูงทั้งนักท่องเที่ยว และผู้ที่ต้องการนำไปใช้ ทำให้มียอดคำสั่งผลิตเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นคอนโดมิเนียม และโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ที่ต้องการใช้รับส่งลูกค้า ซึ่งบริษัทกำลังหาพันธมิตรโรงงานผลิตรายใหม่ที่สามารถผลิตได้ในจำนวนมากขึ้นประมาณ 100 คันต่อปี เพื่อรองรับลูกค้าที่มากขึ้น
สำหรับราคาอยู่ที่ 2.5 แสนบาทต่อคัน ไม่รวมแบตเตอร์รี่ 1-2 แสนบาท สำหรับจุดชาร์จตอนนี้พอเพียงกับรถที่มีอยู่ 15 คัน ต่อไปจะพัฒนามากขึ้นโดยรวมกับโฮสเทลต่างๆ เพื่อตั้งจุดชาร์จ
นอกจากนี้บริษัทยัง พัฒนา ” Tuk Tuk Hop” แอปพลิเคชั่น เรียกรถตุ๊กตุ๊กสำหรับการท่องเที่ยวรอบๆ สนามหลวง โดยกำหนดราคามาตรฐานวิ่งทั้งวัน ด้วย ราคา 399 บาทต่อ 1 คน ,599 บาทต่อ 2 คน ,749 บาทต่อ 3 คน และ 849 บาทต่อ 4 คน ปัจจุบันมีเครือข่ายรถตุ๊กตุ๊กประมาณ 30-40 คัน ได้รับการตอบรับอย่างดี เพราะมีการกำหนดราคามาตรฐาน ป้องกันการ ” ขุดรีด” หรือปฏิเสธผู้โดยสาร และมีความปลอดภัยในการใช้งาน ทำให้ได้รับความนิยมอย่างสูง แต่กลุ่มนี้ยังเป็นรถตุ๊กตุ๊กใชัแก๊สตามปกติ
“สิ่งที่เราทำ เพื่อส่งเสริมรถตุ๊กตุ๊ก เพื่อการท่องเที่ยว ให้นักท่องเที่ยวเชื่อถือ และมั่นใจในการใช้งาน สามารถพาเขาไปเข้าถึงชุมชนต่างๆ ช่วยในการกระจายรายได้ลงสู่ชุมชนมากขึ้น ทำให้ชุมชนได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวอย่างแท้จริง และลดมลพิษ ”
ดร.กฤษดา บอกว่า ตอนนี้รถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าอยู่ในช่วงเริ่มต้น การจะทำให้รถตุ๊กตุ๊กทั้งหมดใช้ไฟฟ้าเป็นเรื่องดี แต่ต้องการ Ecosystem หรือบริบทที่เอื้อและสนับสนุนจากทุกภาคส่วน เพราะราคารถผลิตใหม่ยังสูง และการดัดแแปลงจากรถตุ๊กตุ๊กแก๊สเป็นรถตุ๊กตุ๊กใช้น้ำมันยังไม่คุ้มค่าในตอนนี้ และค่าใช้จ่ายในการวิ่งต่อกิโลเมตรสูงกว่าประมาณ 1-1.50 บาท ขณะที่รถตุ๊กตุ๊กแก๊สวิ่งอยู่กิโลเมตรละ 50 สตางค์
อย่างไรก็ตามเมื่อเราได้เริ่มต้นแล้ว พบว่ามีกระแสตอบรับอย่างกว้างขวาง คาดว่าจะมีรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า ที่ใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่นถูกนำไปใช้งานมากขึ้นในอนาคต โดยปัจจุบันไทยมีรถตุ๊กตุ๊กอยู่ทั้งประเทศประมาณ 20,000 คันวิ่งในกรุงเทพประมาณ 8,000 คัน
