Social

ถอดใบอนุญาต ‘มูลนิธิคุ้มครองเด็ก’ ชื่อดังในสมุทรสงคราม เจอแฉ ‘ทำร้าย-ใช้แรงงานเด็ก’

กระทรวงพัฒนาสังคมฯ จ่อถอดใบอนุญาต มูลนิธิคุ้มครองเด็ก ในจังหวัดสมุทรสงคราม หลังพบพฤติกรรมทำร้ายร่างกายเด็ก-ใช้ให้ทำงานในรีสอร์ต

จากกรณีมีการออกมาเปิดเผยว่า เด็ก ๆ ในมูลนิธิคุ้มครองเด็กแห่งหนึ่ง ที่อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ถูกทำร้ายร่างกาย และใช้แรงงาน รวมถึง มีแอบอัดคลิป ขระเจ้าของมูลนิธิใช้ท่อเหล็กฟาดทำร้ายเด็กคนละหลายครั้ง จนนำไปสู่การตรวจสอบนั้น

มูลนิธิคุ้มครองเด็ก

ล่าสุด วันนี้ (3 พ.ย.) เจ้าหน้าที่จากกระทรวงการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกรณีดังกล่าว เบื้องต้นพิจารณาถอดใบอนุญาตตั้งสถานรับเลี้ยงเด็ก และดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ

นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ ระบุว่า หลังทราบเรื่องในวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงที่มูลนิธิ รวมถึงสอบถามกับเด็กในวันที่ 29 ตุลาคม

จากนั้นวันที่ 30 ตุลาคม ได้เข้าช่วยเหลือเด็กออกมาจำนวน 8 คน ยังเหลือเด็กที่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิอีก 55 คน ซึ่งจะเร่งช่วยเหลือเพิ่มเติม พร้อมทั้งเร่งพิจารณาถอดใบอนุญาตตั้งสถานรับเลี้ยงเด็ก

ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวถูกเปิดโปงออกมา จากคำบอกเล่าของนักศึกษามหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง ที่เข้าทำกิจกรรมอาสากับเด็กในมูลนิธิ เมื่อวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยให้ข้อมูลที่มีเนื้อหาสำคัญ ระบุว่า เด็ก ๆ ถูกทำร้าย ถูกใช้แรงงานให้ทำงานในรีสอร์ตของเจ้าของมูลนิธิ

ขณะที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิเส้นด้ายผู้รับเรื่องร้องเรียน เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบภายในของมูลนิธิคุ้มครองเด็กดังกล่าว พบว่า นอกจากพฤติกรรมของเจ้าของมูลนิธิ ที่กระทำต่อเด็กแล้ว สถานที่ภายในก็ไม่ได้มาตรฐานที่มีสุขอนามัยที่ดีต่อเด็ก

มูลนิธิคุ้มครองเด็ก

เส้นด้ายสรุป “มูลนิธิคุ้มครองเด็ก” ใช้แรงงาน-ทำร้ายร่างกายเด็ก

ทั้งนี้ มูลนิธิเส้นด้าย ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กเพจ เส้นด้าย – Zendai สรุปกรณี “มูลนิธิคุ้มครองเด็ก” ชื่อดังในสมุทรสงคราม ใช้แรงงานและทำร้ายร่างกายเด็ก ว่า 

จุดเริ่มต้น

1. น้อง ๆ นักศึกษามหาวิทยาลัยกลุ่มหนึ่ง ได้เข้าไปทำกิจกรรม และพบเห็นความผิดปกติบางอย่าง อาทิเช่น น้องคนหนึ่งไปถึงก่อนเวลา และได้ยินครูพี่เลี้ยงดุด่าเด็กด้วยถ้อยคำหยาบคาย

ระหว่างทำกิจกรรมเด็ก ๆ ดูไม่มีความสุขกับกิจกรรม รวมไปถึงของรางวัล พวกของเล่น ตุ๊กตาต่าง ๆ เลย ซึ่งผิดปกติจากเด็ก ๆ ในวัยนี้ รวมถึงน้อง ๆ จะบอกกับกลุ่มน้องนักศึกษาว่า “อยากได้อาหารหรือของกินมากกว่า”

2. ระหว่างทำกิจกรรมได้มีการพูดคุยกัน เด็ก ๆ ได้เปิดใจกับกลุ่มนักศึกษาว่า พวกเขาถูกใช้แรงงานในรีสอร์ทของเจ้าของมูลนิธิ แลกกับเงินค่าขนม หนักกว่านั้นถูกทุบตีทำร้ายร่างกาย รวมไปถึง มีการด่าทอทำร้ายจิตใจเด็ก ๆ ไม่เว้นเด็กเล็ก และเด็กโต

น้องผู้หญิงสองคนถูกบังคับให้เรียนต่อในสายอาชีพคหกรรม เพื่อที่จบมาจะได้มาทำงานให้กับรีสอร์ท ของเจ้าของมูลนิธิต่อไป

3. กลุ่มนักศึกษาได้ทำการรวบรวมข้อมูล และพบว่า เจ้าของมูลนิธิเคยมีคดีพรากผู้เยาว์ แต่เรื่องก็เงียบหายไป ทำให้มีความกังวลว่า เป็นผู้มีอิทธิพล และคิดว่าเรื่องนี้อาจจะรุนแรงเกินความสามารถตน แต่ก็ไม่สามารถนิ่งเฉยได้ จึงตัดสินใจแจ้งเข้ามาที่เพจเส้นด้าย

มูลนิธิคุ้มครองเด็ก

4. เส้นด้ายลงพื้นที่ในวันนั้นทันที และได้แอบติดต่อกับน้องผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนเดียวในมูลนิธิที่มีโทรศัพท์มือถือ จากการพูดคุยสอบถามข้อมูลตรงกันกับที่กลุ่มนักศึกษาแจ้งเรามา

5. เรื่องต่าง ๆ ที่ได้รับรู้จากน้องผู้หญิงยิ่งสะเทือนใจอาสาเส้นด้ายทวีคูณขึ้นไปอีก เด็ก ๆ ถูกบังคับ และจับตามองอยู่ตลอดเวลา เลิกเรียนก็ต้องกลับให้ตรงเวลา ก่อนเข้ามูลนิธิ จะต้องมีการตรวจค้นตัวว่ามีโทรศัพท์หรือไม่

เคยมีคนถูกจับได้ก็จะถูกตี และทุบโทรศัพท์ทิ้ง ก่อนมาโรงเรียนต้องทำความสะอาดรีสอร์ท แลกกับค่าขนมไปโรงเรียนวันละ 40 บาท ค่ารถไปกลับ 36 บาท

อาหารกลางวันน้องก็ต้องอาศัยกินกับเพื่อน โดยที่เพื่อน ๆ ก็รับรู้ชะตากรรมของน้อง ๆ แต่นี่คือสิ่งเดียวที่เขาจะให้การช่วยเหลือกับเพื่อน ๆ ได้

6. เด็ก ๆ หลายคนทนไม่ไหว คนที่ยังมีพ่อแม่หรือญาติอยู่ ก็พยายามหาทางติดต่อให้มารับกลับไปอยู่ด้วย แต่พอมีคนมาขอรับกลับทางมูลนิธิก็ไม่ยอม และใช้คำพูดทวงบุญคุณ ประมาณว่า ตอนไม่เอาก็ทิ้ง พอโตก็จะมาเอาคืน เลี้ยงมาก็สำนึกบุญคุณบ้างใช้งานแค่นี้

ส่วนเด็กที่ไม่มีใคร ก็ต้องจำใจอยู่ต่อไปอย่างไม่มีทางเลือก เช่น น้องผู้หญิงคนหนึ่ง ที่อยู่ที่มูลนิธินี้มาตั้งแต่เกิดจนตอนนี้ก็ 17 ปี

มีเด็ก ๆ 3 คนที่ทนไม่ไหว ตัดสินใจหนีออกไป โดยบอกกับเพื่อน ๆ ว่า จะหนีไปเป็นคนงานในไซต์งานก่อสร้าง ไม่รู้ว่าชะตากรรมปัจจุบันเป็นอย่างไรบ้าง

น้องเคยบอกเรื่องนี้กับคุณครูที่โรงเรียน แต่ครูก็ไม่รู้จะช่วยยังไง

มูลนิธิคุ้มครองเด็ก

7. เส้นด้ายรวบรวม และสืบค้นข้อมูล พบว่าเจ้าของมูลนิธิและเจ้าของกิจการรีสอร์ทนี้เป็น อดีตนักการเมือง และเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับการเขียนกฏหมายเกี่ยวกับเด็กด้วย !!!

เราได้ทำการประสานกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่าง ๆ อย่างระมัดระวัง  กลัวผู้กระทำความผิดจะรู้ตัว เพื่อที่จะช่วยเหลือเด็ก ๆ ทั้งหมดได้สำเร็จ

8. เมื่อไม่กี่วันก่อนที่ผ่านมา เส้นด้ายได้ลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน เข้าไปช่วยเหลือเด็กออกมาได้จำนวนหนึ่งซึ่งเป็นเด็กโต

ภาพที่สะเทือนใจคือ เด็กเล็กหลาย ๆ คน เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเป้ใบเล็ก ๆ พร้อมกับหยิบตุ๊กตาตัวโปรดไว้ในมือ เพราะคิดว่าจะได้ไปกับพี่ๆ “พี่…หนูไปด้วยได้ไหม”
“แม่จะมารับหนูใช่ไหม” แต่เมื่อเด็กต้องรับรู้ว่า เขาจะยังไม่ได้ไปกับพี่ ๆ น้ำตาก็ไหลออกมา พร้อมกับหัวใจที่แตกเป็นเสี่ยง ๆ

9. วันนี้เส้นด้ายได้ร่วมงานแถลงข่าวของคดีนี้ โดยความร่วมมือของผู้ว่าฯ และรองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม ปลัดกระทรวงพัฒนานาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยการช่วยเหลือและดำเนินการ ก็คือ

  • วันนี้เด็ก ๆ ทั้งหมดในมูลนิธิคุ้มครองเด็ก จะได้ไปอยู่ที่ใหม่ภายใต้ความดูแลของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
  • เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงของปัญหาเรื่องนี้ต่อไป รวมไปถึงจะพิจารณาการต่ออายุใบอนุญาตของมูลนิธินี้

น้อง ๆ ทุกคนไม่ต้องเจอกับเรื่องร้ายแบบนั้นต่อไปแล้ว จบกันสักทีฝันร้ายที่หลอกหลอนหนูมายาวนาน เพราะจะใหญ่มาจากไหนเส้นด้ายก็ไม่สน เราเชื่อมั่นมาเสมอในความถูกต้อง และก็เชื่อว่าความถูกต้องจะอยู่ข้างเรา

#เส้นด้าย ขอชื่นชมกลุ่มน้อง ๆ นักศึกษามา ณ ที่นี้ ด้วยเพราะความเอาใจใส่ และไม่นิ่งเฉยต่อความผิดปกติที่พบเห็น จึงนำมาสู่ความช่วยเหลือในครั้งนี้ พรุ่งนี้เส้นด้ายจะลงพื้นที่อีกครั้งพร้อมกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล​ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อติดตามความคืบหน้าต่อไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo