“บิ๊กตู่” เอาจริง! กำหนด 4 มาตรการเข้มกวาดล้างปัญหาอาวุธปืนและยาเสพติด ย้ำดำเนินมาตรการอย่างเข้มงวด เร่งด่วน มีประสิทธิภาพ สร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน-ความเชื่อมั่นให้ประชาชน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมเพื่อกำหนดมาตรการเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและอาวุธปืน ร่วมกับรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกคนทราบดีแล้วว่ามีสถานการณ์ความรุนแรงที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขององค์การบริหารส่วนตำบลอุทัยสวรรค์ จังหวัดหนองบัวลำภู ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น รัฐบาลรวมทั้งคนไทยทั้งประเทศมีความห่วงกังวลในเรื่องของการป้องกันและการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการครอบครองอาวุธปืน และยาเสพติด ตลอดจนการเยียวยาผู้เสียหายทั้งระบบ
ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องขอขอบคุณกระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่มีการประชุมหารือกันในขั้นต้น ในการกำหนดมาตรการเร่งด่วนที่จะทำให้เกิดการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบและรวดเร็ว และมีผลเป็นรูปธรรมในการที่จะสร้างความปลอดภัยให้กับชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนการป้องกันเหตุที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน โดยได้มีการบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงประเด็นที่เกี่ยวข้อง คือข้อเสนอเรื่องอาวุธปืนโดยกระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ข้อเสนอจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กระทรวงยุติธรรม การบำบัดและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดของกระทรวงสาธารณสุข การแก้ไขปัญหาและพัฒนาสุขภาพจิต ที่ต้องบูรณาการกันอย่างรัดกุม ให้เกิดผลสำเร็จเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ รัฐบาลได้กำหนดให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ จึงเห็นว่าต้องมีมาตรการเพิ่มเติมมากขึ้น จากโครงสร้างกลไกการป้องกันเดิมที่มีอยู่แล้ว
ตั้งคณะกรรมการใหญ่
“วันนี้ได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการใหญ่ขึ้นอีกหนึ่งคณะ เพื่อติดตามตรวจสอบการทำงานของทุกคณะที่มีอยู่ในปัจจุบัน เพื่อมากำกับดูแลหน่วยงานต่าง ๆ เช่น ศูนย์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ ซึ่งเป็นระดับนโยบายและจังหวัดต่าง ๆ รวมไปถึงศูนย์ระดับกระทรวง กรมและพื้นที่บริการพิเศษ เขตและอำเภอหมู่บ้านและชุมชน”
ดังนั้น เป้าหมายในวันนี้ คือ หลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้นแล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องกำหนดมาตรการเร่งด่วนได้อย่างเป็นระบบ รวดเร็ว และมีผลเป็นรูปธรรม เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ป้องกันเหตุที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน โดยต้องบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กระทรวงสาธารณสุข ที่จะเข้ามาดูแลเรื่องสุขภาพจิต ซึ่งต้องทำงานอย่างบูรณาการและรัดกุม
นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาเรื่องการใช้ยาเสพติดกับการใช้อาวุธที่จะดำเนินการในหลายมิติ โดยเฉพาะมาตรการเรื่องการป้องกันป้องปรามในสถานที่ต่าง ๆ การปราบปรามโดยใช้กระบวนการทางกฎหมาย กวาดล้างทั้งยาเสพติดและการใช้อาวุธต่าง ๆ ความเข้มข้นในการตรวจสอบการใช้อาวุธ การพกพาอาวุธ การบำบัดรักษา สถานที่บำบัดรักษาของรัฐ และศูนย์บำบัดรักษาต่าง ๆ ของส่วนท้องถิ่นให้มีเพียงพอได้คุณภาพมาตรฐาน รวมทั้งต้องค้นหาคนที่ติดยาเสพติดเพื่อนำมาสู่การบำบัดรักษา ซึ่งจะต้องหามาตรการที่เหมาะสมในการดำเนินการอย่างเข้มงวด และต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน มีประสิทธิภาพ เพื่อนำไปสู่การกำหนดแนวทางปฏิบัติต่อไปโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นชอบมาตรการสำคัญที่ต้องดำเนินการให้เป็นรูปธรรมในการแก้ไขปัญหาอาวุธปืนและยาเสพติด ประกอบด้วย
1. มาตรการเกี่ยวกับอาวุธปืน
- กวดขันการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับอาวุธปืน และกระสุนปืนอย่างเข้มงวดในการออกใบอนุญาต การต่อใบอนุญาตและการพกพา
- ผู้ยื่นคำขออนุญาตมีและใช้อาวุธปืน ต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนถูกต้องตรงตามกฎหมาย มีการตรวจสอบและรับรองทางจิตว่าไม่เป็นผู้วิกลจริต จิตฟั่นเฟือน/สำหรับในส่วนความประพฤติหรือพฤติกรรมต้องได้รับการรับรองจากผู้บังคับบัญชา ชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ว่าไม่มีพฤติการณ์ที่เป็นภัยต่อสังคม และมีมาตรการตรวจสอบทบทวนเพื่อพิจารณาคุณสมบัติในทุกรอบระยะเวลาที่เหมาะสม
- เพิกถอนใบอนุญาตพกพาอาวุธปืน เมื่อพบปัญหาทางจิต พฤติกรรมที่เป็นภัยต่อสังคม การใช้ยาเสพติด และมีพฤติกรรมที่เป็นภัยต่อสังคม
- กวาดล้างจับกุมอาวุธเถื่อนและการซื้อขายออนไลน์อย่างจริงจัง
- ทบทวนกฎหมายที่จำเป็นให้มีความทันสมัย
2. มาตรการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
- ควบคุมการนำเข้าและส่งออกสารเคมีที่นำไปใช้ผลิตยาเสพติด “โซเดียมไซยาไนต์”
- เร่งติดตาม สืบสวนขยายผล ทำลายเครือข่ายนักค้ายาเสพติดและยึดอายัดทรัพย์สิน
- บูรณาการนำผู้เสพเข้าระบบศูนย์ข้อมูลที่ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงาน ป.ป.ส.
- ทบทวนกรณีผู้เสพเป็นผู้ป่วย โดยเฉพาะประเด็นปริมาณการครอบครอง เพื่อนำไปสู่การบำบัดฟื้นฟู
- สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
3. มาตรการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด
- ค้นหา คัดกรองผู้ป่วย SMIV เข้าสู่สถานฟื้นฟูฯ ภาคีเครือข่าย
- เร่งรัดการจัดตั้งศูนย์คัดกรองให้ครอบคลุมทุกตำบล ทั้ง สธ.และ อปท. และสถานบำบัดรักษาที่มีมาตรฐานสากล
- บูรณาการการบำบัดโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน (Community Based Treatment) ให้ครอบคลุมทุกตำบล
- พัฒนาพฤตินิสัย ร่วมกับการบำบัดฟื้นฟู โดยเฉพาะกลุ่มที่ก่อความรุนแรง หรือเสี่ยงต่อการก่อความรุนแรง และใช้กำไล EM เพื่อการติดตามดูแล
4. การพัฒนาและแก้ไขปัญหาสุขภาพจิต
- จัดตั้งระบบดูแลสุขภาพจิตใน โรงเรียนและสถานศึกษาทุกแห่ง / สถานประกอบกิจการที่มีพนักงานมากกว่า 100 คน / หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับอาวุธร้ายแรง
- ทำการบำบัดฟื้นฟูทันที โดยจัดตั้งกลุ่มงานจิตเวชและยาเสพติดทุกอำเภอ จัดตั้งหน่วยบูรณาการ จิตเวชฉุกเฉินทุกอำเภอ ระบบดูแลเบื้องต้นทางจิตเวชทุกโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล
- ใช้ชุมชนบำบัด เพิ่มสิทธิประโยชน์ในการรักษาจิตเวชทางไกล การดูแลต่อเนื่องในชุมชนในผู้ป่วยจิตเวชเสี่ยงต่อการเกิดความรุนแรง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- วาระแห่งชาติ! ‘บิ๊กตู่’ สั่งตั้งคณะกรรมการติดตามแก้ปัญหายาเสพติด-อาวุธปืน
- ‘บิ๊กตู่’ เตรียมไว้แล้ว 2.3 หมื่นล้าน ‘งบเยียวยาน้ำท่วม’ สั่งการสำรวจความเสียหายทันที หลังน้ำลด
- เลิฟเลิฟ! ‘บิ๊กตู่’ เข้าสวมกอด ‘พี่ป้อม’ บอกไม่ไปไหนหรอก มีเรื่องให้ง้อได้ทุกวัน