มท.1 สั่งทุกจังหวัด รับมือ ‘โนรู’ ตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์ แนวโน้มรุนแรงรีบอพยพประชาชน ตั้งศูนย์พักพิงผู้ประสบภัย
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะ ผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้สั่งการให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดทุกจังหวัด เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ และผลกระทบจากพายุ “โนรู”
แนวทางแผนเผชิญเหตุ
พร้อมทั้งกำชับดำเนินการตามแนวทางแผนเผชิญเหตุอุทกภัย ตามแนวทาง ดังนี้
- ให้จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัด ติดตามสถานการณ์พายุโนรู รวมทั้งประเมินสถานการณ์และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ อาทิ ปริมาณฝน น้ำท่า การระบายน้ำจากเขื่อน และอ่างเก็บน้ำขนาดต่าง ๆ ในพื้นที่ที่อาจส่งผลต่อการเกิดสถานการณ์อุทกภัย และดินโคลนถล่ม เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการสนับสนุนการตัดสินใจของผู้อำนวยการในแต่ละระดับ พร้อมทางแจ้งเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย ทราบถึงสถานการณ์เป็นระยะ รวมถึงแนวทางการปฏิบัติตนให้เกิดความปลอดภัย และช่องทางในการติดต่อสื่อสารเพื่อขอรับความช่วยเหลือจากภาครัฐ
- กำชับกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในแต่ละระดับ ดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุอุทกภัย โดยกำหนดพื้นที่ ภารกิจ และมอบหมายหน่วยงานรับผิดชอบ จัดกำลังเจ้าหน้าที่ เครื่องจักรกลสาธารณภัย อาทิ เครื่องสูบน้ำ เรือยนต์กู้ภัย เรือท้องแบน รถสูบส่งน้ำระยะไกล รถปฏิบัติการบรรเทาอุทกภัย ฯลฯ เตรียมความพร้อมในพื้นที่เสี่ยงภัย เพื่อให้พร้อมเผชิญเหตุและให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
- เมื่อเกิดเหตุสาธารณภัยในพื้นที่ ให้จัดชุดปฏิบัติการจากฝ่ายพลเรือน ทหาร ตำรวจ มูลนิธิ อาสาสมัคร ประชาชนจิตอาสา เร่งเข้าคลี่คลายสถานการณ์ พร้อมทั้งดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนในด้านต่าง ๆ ตลอดจนจัดตั้งโรงครัวพระราชทานในการประกอบเลี้ยง การแจกจ่ายถุงยังชีพตามวงรอบ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
- หากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงในพื้นที่ ให้ผู้อำนวยการสั่งการอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยไปยังพื้นที่ปลอดภัย หรือศูนย์พักพิงที่จัดเตรียมไว้โดยทันที โดยให้ฝ่ายปกครองกำนันผู้ใหญ่บ้านผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เครือข่ายอาสาสมัครประชาชนจิตอาสา เข้าดูแลให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเป็นระบบ
- สำหรับจังหวัดที่ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย และเกิดขึ้นต่อเนื่องให้จัดตั้งศูนย์พักพิงและวางแผนบริหารจัดการ เพื่อรองรับการอพยพของประชาชนอย่างเป็นระบบ
- สำหรับจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ตลอดจนพื้นที่ติดชายฝั่งทะเลให้มอบหมายหน่วยงาน ที่มีหน้าที่กำกับดูแล เช่น บริเวณน้ำตก ถ้ำ กำหนดมาตรการในการแจ้งเตือน การปิดกั้นหรือห้ามบุคคลใดเข้าพื้นที่
- สำหรับพื้นที่ติดทะเล ชายหาดต่าง ๆ ให้ประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานของกรมเจ้าท่า กองทัพเรือ ตำรวจน้ำในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามมาตรการที่กำหนด ในการนำเรือเข้าที่กำบังและห้ามการเดินเรือ ช่วงที่มีคลื่นลมแรงโดยเคร่งครัด หากพบว่ามีเรือขนาดเล็กอยู่ในพื้นที่นอกชายฝั่งที่อาจจะเป็นอันตราย ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการนำเรือดังกล่าวกลับเข้าฝั่งเพื่อให้เกิดความปลอดภัย
- ตลอดจนกำชับสถานประกอบการ โรงแรมในพื้นที่ชายทะเล สื่อสารให้นักท่องเที่ยวระมัดระวัง และห้ามลงเล่นน้ำในช่วงที่มีคลื่นลมแรงโดยเด็ดขาด
สรุปสถนการณ์และรายงานทุกวัน
ทั้งนี้ ให้ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดที่ได้รับผลกระทบ สรุปสถานการณ์และรายงานให้กระทรวงมหาดไทยทราบ อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติหรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
พลเอก อนุพงษ์ กล่าวว่า หากประชาชนประสบเหตุสาธารณภัย หรือต้องการความช่วยเหลือ จากเหตุสาธารณภัยต่างๆ สามารถขอรับความช่วยเหลือได้ที่ สายด่วนนิรภัย โทร. 1784 ได้ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- พิษ ‘โน รู’ กรมทางหลวง แจ้งถนนถูกน้ำท่วม-ดินสไลด์ 14 จังหวัด 20 สาย
- ผู้ว่าฯ ชัชชาติ วาง 3 มาตรการ รับมือ ‘โน รู’ วางกระสอบทราย 2.7 ล้านกระสอบ ป้องน้ำท่วม
- เปิดแล้ว ศูนย์ติดตาม ‘พายุโนsู’ ประสาน 5 ศูนย์อุตุฯ ทุกภูมิภาค รายงานข้อมูลอย่างทันท่วงที