สธ. ขอคืนหนังสือจาก ตร. เตรียมแก้ไขประกาศ ให้‘ช่อดอกกัญชา’ เป็นสมุนไพรควบคุม กำหนดปริมาณการใช้ในครัวเรือน คาดสัปดาห์หน้าได้ข้อสรุป
ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัด กระทรวงสาธารณสุข และ นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดี กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แถลงข่าวกรณีการขอความร่วมมือตำรวจดำเนินคดีผู้ไม่ขออนุญาตการใช้กัญ ชา
ทบทวนรายละเอียดอีกครั้ง เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด
โดยนพ.ณรงค์ กล่าวว่า จากกรณีที่มีการทำหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรื่องการดำเนินคดีกับผู้ไม่ขออนุญาตศึกษาวิจัย หรือส่งออกสมุนไพรควบคุม หรือจำหน่าย หรือแปรรูปสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้านั้น นัยของหนังสือฉบับนี้ เพื่อต้องการคุ้มครองผู้ที่มีอายุไม่ถึง 20 ปี สตรีมีครรภ์และให้นมบุตร
แต่จากที่ตรวจสอบหนังสือแล้วและปรึกษากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีข้อสรุปและข้อสั่งการให้อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ทบทวนรายละเอียด โดยได้นำหนังสือฉบับดังกล่าวกลับมาพิจารณาอีกครั้ง ทบทวนเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด
ด้าน นพ.ยงยศ กล่าวว่า คณะอนุกรรมการด้านกฎหมาย ภายใต้ พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542 หารือแล้วเห็นว่า การกำหนดกัญ ชา เป็นสมุนไพรควบคุมต้องมีความชัดเจน 4 เรื่อง คือ
- ประชาชนที่ใช้ประโยชน์กัญ ชา ในการดูแลสุขภาพต้องไม่ได้รับผลกระทบ
- ความผิดของประชาชนที่ดำเนินการก่อนจะมีประกาศฉบับนี้ต้องไม่มี
- การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ที่จะไปดำเนินการร่วมกับผู้เกี่ยวข้องต้องมีความชัดเจน
- .กัญ ชา จะเป็นพืชสำคัญสร้างเศรษฐกิจ และคุณค่าทางการแพทย์
ให้ช่อดอกกัญชา เป็นสมุนไพรควบคุม กำหนดปริมาณการใช้ในครัวเรือน
การให้กัญ ชา กลับไปเป็นยาเสพติด หรือถูกด้อยค่าจากการกระทำของคนก็ไม่ควรเกิดขึ้น ดังนั้น คณะอนุกรรมการด้านกฎหมายฯ จึงเห็นควรให้ปรับปรุงประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม ให้มีความชัดเจนขึ้น โดยจะกำหนดเฉพาะ ช่อดอก เป็นสมุนไพรควบคุมเท่านั้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ใช้ประโยชน์จากกัญชาด้วยส่วนประกอบอื่นที่ไม่ใช่ช่อดอก จะสามารถดำเนินการได้ตามปกติ
นอกจากนี้ จะกำหนดปริมาณช่อดอกสำหรับครัวเรือนที่เหมาะสม ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาและรับฟังความคิดเห็น คาดว่าสัปดาห์หน้าจะได้ข้อสรุปปริมาณช่อดอกที่มีไว้ในครัวเรือน หากไม่เกินที่กำหนดจะไม่เข้าข่าย สามารถใช้ดูแลสุขภาพตนเองได้ หากเกินหรือเพื่อการค้าก็ต้องขออนุญาต ซึ่งไม่ใช่เรื่องยาก เพราะจะอำนวยความสะดวกด้วยการขอทะเบียนออนไลน์ โดยจะกำหนดคุณสมบัติของผู้จำหน่ายไว้
นพ.ยงยศ กล่าวว่า หากเราประกาศทั้งต้น จะมีผู้ได้รับผลกระทบเยอะ โดยเฉพาะประชาชนที่ลงทะเบียน ‘ปลูกกัญ’ เป็นล้านๆ คน อย่างไรก็ตาม จะมีการกำหนดปริมาณช่อดอกที่เหมาะสมในการครอบครัวของแต่ละครัวเรือนเพื่อใช้ดูแลสุขภาพ
คาดได้ข้อสรุปสัปดาห์หน้า
อย่างไรก็ตาม การออกประกาศฉบับใหม่จะเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุดเพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน และเมื่อมีความชัดเจนจะมีการทำความเข้าใจกับผู้ปฏิบัติ คือ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดในฐานะผู้อนุญาตในพื้นที่ และหารือร่วมกันกับทางตำรวจเพื่อทำความเข้าใจ
ทั้งนี้ การปรับปรุงประกาศจะเป็นตามขั้นตอน คือ ส่งให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ก่อนจะส่งให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขลงนาม เพื่อประกาศใช้ คาดว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จในสัปดาห์หน้า
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- หนุน ‘ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ’ ดัน ‘กัญ ชา-กัญชง’ เข้าสปาและนวดไทย ช่วยฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด
- โพลเผย กว่าครึ่ง ไม่เห็นด้วย ‘เสรีกัญ ชา’ ห่วงเยาวชนเสพติด แต่ยอมรับเป็นความหวังใหม่ทางธุรกิจ
- สธ.แจง ‘กัญ ชาทางการแพทย์’ อิงสหประชาชาติ จ่ายยาแล้วกว่า 4.5 แสนครั้ง