โพลเผย ผลสำรวจกว่าครึ่ง ไม่เห็นด้วย ‘เสรีกัญชา’ ห่วงเยาวชนเสพติด แต่ยอมรับเป็นความหวังใหม่ทางธุรกิจ และประโยชน์ทางการแพทย์
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศต่อนโยบายกัญชาเสรี หลังรัฐบาลปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด โดยเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง 1,215 ตัวอย่างทั่วประเทศ เพศชาย 46.5% เพศหญิง 53.5% อายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป ระหว่างวันที่ 5 – 15 กรกฏาคมที่ผ่านมา
58.3% ไม่เห็นด้วยเปิดเสรี เห็นด้วย 41.7% แต่ต้องควบคุมและมีบทลงโทษรุนแรง
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และ ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ 75% จะไม่ซื้อหรือบริโภคผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชาที่มีวางขายทั่วไป เพราะยังกังวลผลข้างเคียง และขาดความรู้และมาตรฐานการผลิต รวมไปถึงกลัวการใช้เกินขนาด
ประชาชนส่วนใหญ่ 58.3% ยังไม่เห็นด้วยกับการเปิดเสรี เพราะห่วงการใช้กัญชาในกลุ่มเด็กและเยาวชน ก่อให้เกิดการเสพติด และการใช้เกินขนาดในยารักษาโรค และกลุ่มตัวอย่าง 41.7% เห็นด้วยกับการเปิดเสรี เพราะจะเกิดประโยชน์ทางการแพทย์และสันทนาการ แต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ และควรมีบทลงโทษที่รุนแรง เมื่อมีการทำผิดกฏในการใช้กัญชา รวมทั้งกำหนดขอบเขตของการเปิดเสรีให้ชัดเจน
เสิร์ชหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต สูงสุดอันดับ 1 ของโลก
ส่วนกระแสในโซเชียลมิเดีย ถึงนโยบายการเปิดเสรีกัญชา พบว่า คนไทยตื่นตัวเรื่องการปลดล็อกกัญชา ในวันที่ 9 มิถุนายน สูงมาก โดยมีการเสิร์ชข้อมูลกัญชาในอินเทอร์เน็ตสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของโลก โดยก่อนหน้านี้จะอยู่ในอันดับที่ 15 ของโลก
ส่วนการกล่าวถึงกัญชาในโซเชียลมีเดีย สูงสุดอยู่ในกลุ่มอายุ 18-24 ปี ส่วนใหญ่เป็นข้อความที่แสดงความรู้สึกเชิงลบ หลังจากมีกระแสข่าวผลกระทบเชิงลบมากขึ้น โดยเฉพาะกังวลถึงการใช้ในกลุ่มเด็กและเยาวชน แต่ในเชิงบวก ระบุว่ากัญชาถือเป็นความหวังใหม่ทางธุรกิจและประโยชน์ทางการแพทย์
มีความกังวลเชิงลบทางสังคม แต่มีประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม มีการประเมินมูลค่าตลาดของอุตสาหกรรมกัญชา จากการประมาณการพื้นที่เพาะปลูกกัญชง-กัญชา ล่าสุดเดือนเมษายน 2565 ไทยมีพื้นที่เพาะปลูกกว่า 7,500 ไร่ มีมูลค่าตลาดของอุตสาหกรรมตั้งแต่ต้นน้ำ ถึงผลิตภัณฑ์ปลายน้ำ รวมกว่า 28,000 ล้านบาท ทั้งในประเทศและส่งออก และมีการคาดการณ์ว่า มูลค่าตลาดในช่วง 3 ปีข้างหน้า จะโตได้ 10-15% มีมูลค่าสูงถึง 42,800 ล้านบาท
โดยสรุป ประชาชนมีความกังวลเชิงลบทางสังคม แต่ก็ยอมรับว่ากัญชามีประโยชน์และสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจได้ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิตสินค้า และเกษตรกร ซึ่งเชื่อว่าในอนาคตเกษตรกรจะได้ประโยชน์ประมาณ 1 ใน 3 ของเกษตรกรทั้งหมด เข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้นในต้นน้ำของธุรกิจกัญชง-กัญชา เพราะขายได้ทั้งต้น
คาดว่ารายได้เฉลี่ยต่อไร่จะสูงถึง 800,000-1,200,000 ล้านบาท/ไร่/ปี จากราคากัญชาขณะนี้ที่อยู่ในระดับสูง หากเทียบกับการปลูกข้าว รายได้จะอยู่ที่หลักหมื่นเท่านั้น และส่งผลต่อเนื่องไปถึงกลางน้ำ จะเริ่มมีวิสาหกิจเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้นเช่นกันในการทำผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะต้องมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปสนับสนุนให้ความรู้/ทำการวิจัย เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม เพราะปลายทางจะเกิดประโยชน์ทางการแพทย์ ทำยารักษาโรค และอาหารเพื่อสุขภาพ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- สธ.แจง ‘กัญชาทางการแพทย์’ อิงสหประชาชาติ จ่ายยาแล้วกว่า 4.5 แสนครั้ง
- ‘เพื่อไทย’ อัด ‘กัญชาเสรี’ โอดทุกวันนี้เด็กพี้กัญชากลางห้องเรียนแล้ว!!
- ‘สหประชาชาติ’ ยอมรับประโยชน์ ‘กัญชา’ ถอดชื่อจาก ‘บัญชียาเสพติด’