Politics

‘ศักดิ์สยาม’ โต้เดือด ‘ฝ่ายค้าน’ ซักฟอก ซุกหุ้นไม่จริง คมนาคมไม่มีฮั้วประมูล

 “ศักดิ์สยาม” โต้เดือด “ฝ่ายค้าน” ซักฟอก ที่ดินเข้ากระโดงเป็นไปตามกระบวนการทาง กม. ซุกหุ้นไม่จริง ไม่เกี่ยวข้องตั้งแต่ มี.ค.61 คมนาคมไม่มีฮั้วประมูล

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ชี้แจงประเด็นที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ตนสรุปได้ว่ามีการอภิปรายใน 4 ประเด็น โดยประเด็นแรก เกี่ยวข้องกับที่ดินของการรถไฟที่เขากระโดง ประเด็นที่ 2 คือ ประเด็น การขายหุ้นของ หจก. บุรีเจริญ ว่าเป็นนิติกรรมอำพราง ประเด็นที่ 3 คือประเด็นที่มีการกล่าวหาว่ามีการจัดสรรงบประมาณของหน่วยงานของกระทรวงคมนาคมของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท ไปที่จังหวัดบุรีรัมย์มากผิดปกติ และประเด็นสุดท้าย คือประเด็นของการวางแผน MR map ว่าเป็นการลงทุนที่ซ้ำซ้อน

ศักดิ์สยาม

นายศักดิ์สยาม ชี้แจงในประเด็นที่ดินเขากระโดง ว่าประเด็นดังกล่าวได้ถูกหยิบยกมาอภิปรายหลายครั้งแล้ว ซึ่งปัญหาที่ดินเขากระโดงจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนานมีข้อพิพาทระหว่างหน่วยงานของรัฐและประชาชนในบริเวณนั้น ตั้งแต่ปี 2502 และอยู่ระหว่างการพิสูจน์สิทธิ์ของกรมที่ดิน และการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยต้องมีการตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริง และขอยืนยันว่า ตนไม่เคยแทรกแซงการทำงานของหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงคมนาคม และสั่งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายมาโดยตลอด และยืนยันด้วยความบริสุทธิ์ใจ ว่าตนเป็นเพียงผู้อาศัยอยู่ในพื้นที่ เพราะทุกอย่างต้องอยู่ในกระบวนการพิสูจน์สิทธิ และดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

ข้อกล่าวหาว่าแทรกแซงการทำงานของหน่วยงานในสังกัด การรถไฟ ยืนยันว่าได้สั่งการให้การทำงานของการรถไฟยึดหลักการดำเนินการตามกฎหมาย และหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด และจะต้องมีการดำเนินการในสิ่งที่กำกับดูแลอย่างชัดเจน จึงได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อกำหนดยุทธศาสตร์การบริหารพื้นที่ เพื่อให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยในหนังสือสั่งการในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ลงนามให้สั่งการให้การรถไฟ แก้ไขปัญหาทางที่ดินรถไฟบริเวณเขากระโดง โดยให้มีการติดตามความก้าวหน้าและดำเนินการตามกฎหมายและหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด โดยให้ปฏิบัติด้วยการเท่าเทียมเสมอภาคและโปร่งใส ซึ่งมีการลงนามในเอกสารที่ปรากฏนายศักดิ์สยาม กล่าว ศักดิ์สยาม

นายศักดิ์สยาม ยังกล่าวว่า ส่วนประเด็นการขายหุ้นห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญ น่าสงสัยว่าเป็นการซื้อขายปลอมไม่มีหลักฐานว่ามีการซื้อขายจริงแต่เป็นในลักษณะนิติกรรมอำพราง เพื่อให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ประโยชน์ในกานวันที่ 16 มกราคม 2561 โดยได้มีการโอนเงินเสร็จเรียบร้อยมีหลักฐานยืนยันจากธนาคารธนชาตสาขาบุรีรัมย์ มีการโอนเงิน 3 ครั้ง

  • ครั้งแรกวันที่ 2 เดือนสิงหาคม 2560 จำนวน 35 ล้านบาท จากธนาคารธนชาต สาขาบางบัวทอง
  • ครั้งที่ 2 วันที่ 5 เดือนกันยายนปี 2560 จำนวนเงิน 35 ล้านบาทจากธนาคารธนชาตสาขาบางบัวทอง
  • และครั้งสุดท้ายโอนเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2561 จำนวนเงิน 49,500,000 บาท จากธนาคารธนชาตสาขาบางบัวทอง

ศักดิ์สยาม

โดยมีนายศุภวัฒน์เป็นผู้โอน รวมจำนวนเงิน 119,119, 500, 000 บาท ซึ่งเรื่องนี้เป็นประเด็นที่มีการดำเนินการซื้อขายจริง และมีการจด เปลี่ยนหนังสือรับรองของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าของกระทรวงพาณิชย์เมื่อวันที่ 28 มีนาคมปี 2561 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญอีกเลย เพราะฉะนั้นสิ่งที่พูดถือหุ้นหรือห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญ ไปดำเนินธุรกิจธุรกรรมอะไรก็เป็นเรื่องของเขา ซึ่งตนเขาไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง หากมีข้อสงสัยอะไรคงต้องไปสอบถามจากทาง หจก. บุรีเจริญ

ขณะที่ประเด็นข้อซักถามว่า ทำไมการจดการขายซื้อหุ้นครั้งนี้จึงไม่มีการยื่นหลักฐานไปที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าด้วย ขอยืนยันว่าเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ว่ากรณีที่ต้องยื่นมีเรื่องเดียวเพียง มีการเพิ่มการลงทุนหรือจดใหม่ ส่วนที่มีการโอนหุ้นและซื้อขายถูกต้องไม่จำเป็นต้องยื่น

ยืนยันว่ามีหลักฐานทั้งหมด เพราะฉะนั้นจะต้องเรียนว่าตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมาตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจ ของห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญ ส่วนเงินที่ได้จากการซื้อขายหุ้นก็เป็นเรื่องส่วนตัวของตนจะนำไปใช้อะไร ตนคิดว่าคงไม่ต้องรายงานต่อสมาชิกนายศักดิ์สยาม กล่าว

ศักดิ์สยาม

ส่วนการตั้งประเด็นว่างานของกระทรวงคมนาคมโครงการต่างๆ มีการประมูลงานที่เป็นลักษณะของการฮั้วประมูล นายศักดิ์สยาม ยืนยันว่าไม่เป็นความจริงและเป็นไปไม่ได้ ตั้งแต่ตอนเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ให้นโยบายกับข้าราชการของกระทรวงคมนาคมในการปฏิบัติงานอยู่ 4 ข้อ คือต้องปฏิบัติงานให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมายต้องถูกต้องตามมติครม ต้องเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล และต้องรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เพราะฉะนั้นข้อกล่าวหาที่มีการฮั้วประมูลงานของกระทรวงคมนาคมเป็นไปไม่ได้

ส่วนข้อกล่าวหาที่มีการจัดงบประมาณของกรมทางหลวงชนบทและกรมทางหลวง ไปยังจังหวัดบุรีรัมย์มากผิดปกตินั้น นายศักดิ์สยาม ชี้แจงว่า ในสิ่งที่ดำเนินการในการจัดทำงบประมาณ พิจารณาในเรื่องขอตั้งงบประมาณที่มีการดำเนินการของกระทรวงคมนาคมในเรื่องกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท ย้อนหลัง 10 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2557 ถึงปี 2566 โดยปี 2566 ไม่ยังไม่มีการจัดสรรงบประมาณ อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะพบว่าการของบประมาณของกระทรวงคมนาคมเราขอไปมาก แต่จะได้รับการจัดสรรเพียงไม่เกิน 1 ใน 3 ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีทั้งเรื่องของการจัดตั้งงบประมาณที่เป็นโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นงบผูกพัน การจัดตั้งงบประมาณขนาดเล็กหรืองานปีเดียว โดยการพิจารณาจัดสรรงบประมาณกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทจะเป็นผู้เสนอโครงการที่มีความพร้อมในการดำเนินการและมีความจำเป็นเร่งด่วน ซึ่งมีการตรวจสอบและศึกษามาอย่างดีมายังกระทรวง โดยกระทรวงจะมีคณะทำงานดูเรื่องนี้ ก่อนที่เรื่องจะมาถึงตนและตนจะพิจารณาสอบถามว่าเป็นไปตามหลักเกณฑ์ความจำเป็นหรือไม่ก่อนที่จะลงนำเสนอไปยังสำนักงบประมาณเพื่อพิจารณา ทั้งหมดเป็นไปตามกระบวนการไม่มีเรื่องที่จะสามารถไปสั่งได้ไม่มี

ส่วนที่บอกว่างบประมาณเป็นกระจุกตัวที่จังหวัดบุรีรัมย์นั้น นายศักดิ์สยาม ชี้แจงว่า 10 ปีที่ผ่านมาจังหวัดบุรีรัมย์ มีงบของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท ดำเนินการในพื้นที่หากเปรียบเทียบย้อนหลัง จะเห็นได้ว่าจังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อเปรียบเทียบกับจังหวัดใหญ่ๆอย่างนครราชสีมา นครปฐม จังหวัดอื่นๆได้รับงบประมาณจัดสรรมากกว่าจังหวัดบุรีรัมย์

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Avatar photo