Politics

อภิปรายวันที่ 2 เดือด! ซัด ‘นายกฯ-จุรินทร์’ ปล่อยให้ฟอกเงิน ทุจริตถุงมือยาง 2 พันล้าน

อภิปรายไม่ไว้วางใจ วันที่ 2 เดือด! “เพื่อไทย” จัดการ “จุรินทร์” งัดข้อมูลใหม่ “โกงถุงมือยางภาค2” แฉเอกสาร “ฟอก-โอนเงิน” คนเกี่ยวข้องลอยนวล ใช้ชีวิตอู้ฟู่-หรูหรา เย้ยกฎหมาย ซัด “บิ๊กตู่” เอาหูไปนา เอาตาไปไร่ ชงยื่น “ป.ป.ช.” ใหม่อีกรอบ

วันนี้ (20 ก.ค.) ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณาญัตติขอเปิดการอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 จำนวน 11 คน ภายใต้ชื่อ “ยุทธการเด็ดหัว สอยนั่งร้าน” เป็นวันที่สอง โดยมีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม

นายศุภชัย ได้แจ้งที่ประชุมว่า การอภิปรายในวันนี้ ฝ่ายค้านจะเริ่มอภิปราย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นคนแรก  ตามด้วยนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการมหาดไทย นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

สำหรับการอภิปรายวันแรก ใช้เวลาไปแล้ว 14 ชั่วโมง 10 นาที แบ่งเป็น คณะรัฐมนตรีใช้เวลาไปแล้ว 2 ชั่วโมง 18 นาที พรรคร่วมรัฐบาลใช้เวลาไป 12 นาที พรรคร่วมฝ่ายค้านใช้เวลา 11 ชั่วโมง 18 นาที คงเหลือเวลา 33 ชั่วโมง 41 นาที ขณะที่ประธานที่ประชุมใช้เวลาไป 21 นาที

อภิปรายไม่ไว้วางใจ

อภิปรายไม่ไว้วางใจวันที่ 2 ซัดจุรินทร์ฉ้อฉล-นายกฯ นิ่งเฉย ทุจริตถุงมือยาง อคส. 

จากนั้น นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ขึ้นอภิปรายนายจุรินทร์ ตอนหนึ่งว่า ได้รับมอบหมายให้อภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ และนายจุรินทร์ ในข้อหาการทุจริตถุงมือยางภาค 2

พล.อ.ประยุทธ์ รู้ถึงการทุจริตที่เกิดขึ้นที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) เป็นอย่างดีในวงเงิน 2,000 ล้านบาท แต่กลับเพิกเฉยไม่ดำเนินการใด ๆ จนความเสียหายเกิดขึ้น และปัจจุบันยังไม่สามารถติดตามเงินกลับคืนมาได้

พล.อ.ประยุทธ์ กลับเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ แต่ปากว่าตาขยิบ รู้ว่านายจุรินทร์มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่เกรงใจไม่กล้าปลดออกจากตำแหน่ง เพราะเกรงว่าสถานะนายกฯ อาจไม่มั่นคง และเกรงว่านายจุรินทร์จะถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาล จึงปล่อยปละละเลยการทุจริตที่เกิดขึ้น

ขณะที่ นายจุรินทร์มีพฤติกรรมฉ้อฉล ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริต รู้เห็นเป็นใจปล่อยให้มีการทุจริตเกิดขึ้น เนื่องจากกลุ่มบุคคลทุจริตนั้น เป็นบุคคลใกล้ชิด เป็นบุคคลที่ตั้งขึ้นมาเอง โดยไม่อายัดเงินให้ทันต่อเหตุการณ์ อีกทั้งยังมีเจตนาทอดเวลา จนในที่สุดกลุ่มผู้กระทำการทุจริตได้นำเงินที่ได้นั้น ไปทำการฟอกเงิน กระจายเงินไปตามบัญชีต่าง ๆ จนไม่สามารถติดตามได้

“การอภิปรายครั้งนี้ มีข้อมูลใหม่เกี่ยวข้องกับพฤติการณ์การฟอกเงิน มีเส้นทางการเงินของบริษัทการ์เดียน โกลฟส์ จำกัดว่า โอนเงินไปให้ใคร องค์การคลังสินค้าได้ทำสัญญาขายถุงมือยาง จำนวน 7 สัญญามูลค่า 186,100 ล้านบาท สร้างข้อมูลอันเป็นเท็จว่า สั่งซื้อจากบริษัท 7 แห่งจำนวนมาก เพื่อต้องการอ้างเหตุว่ามีออเดอร์ โดยจัดซื้อจากบริษัทการ์เดียน โกลฟส์ จำกัดจำนวน 500 ล้านกล่อง กล่องละ 225 บาทมูลค่า 112,500 ล้านบาท ปัจจุบันได้รับเงินมัดจำไปแล้ว 2,000 ล้านบาทจากองค์การคลังสินค้า แต่องค์การคลังสินค้า ยังไม่ได้รับมอบถุงมือยางแต่อย่างใด และปัจจุบันได้ยกเลิกสัญญาแล้ว”

นายประเสริฐ ระบุว่า จากการอภิปรายครั้งที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เห็นได้ชัดว่า การทุจริตเกิดขึ้นจริง เงิน 2,000 ล้านบาทยังติดตามคืนไม่ได้ ผู้เกี่ยวข้องกับการทุจริตยังใช้ชีวิตหรูหรา ใช้นาฬิกายี่ห้อริชาร์ด มิลล์ ซื้อรถแลมโบกินี่ รถบีเอ็มดับเบิลยู และบ้านใหม่หลายล้านบาท ลอยนวลในสังคมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

อภิปรายไม่ไว้วางใจ

ชี้เพิกเฉย ทำปล่อยให้ฟอกเงิน 2,00 ล้านบาทอย่างเปิดเผย 

ตนได้ยื่นคำร้องต่อป.ป.ช. เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2564 ต่อมาป.ป.ช.ได้ทำบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาผู้เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2564 จำนวน 22 ราย มีการไต่สวนเบื้องต้นเห็นว่า มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะสนับสนุนข้อกล่าวหาว่ามีมูลความผิดจริง จนป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหา โดยเฉพาะประธานบอร์ดองค์การคลังสินค้า แต่นายจุรินทร์ไม่สนใจปล่อยให้ทำหน้าที่ต่อไปจนหมดวาระ และไม่มีการตั้งกรรมการสอบสวน

พฤติกรรมของนายจุรินทร์ อ้างผอ.องค์การคลังสินค้าว่า มีรายงานให้ตน 4 ครั้ง เพราะกลัวภัยจะมาถึงตัว นายจุรินทร์เคยบอกต่อสภาว่า ตนเองเป็นเพียงบุรุษไปรษณีย์ เพื่อปฏิเสธความรับผิดชอบ ทั้งที่เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มีหน้าที่กำกับดูแลองค์การคลังสินค้า

“ถ้าเป็นแค่นั้นอย่ามาเป็นรัฐมนตรีเลย ปฏิเสธความรับผิดชอบทั้งที่กฎหมายให้อำนาจ วันนี้ผมมาทวงถามให้นายจุรินทร์ ได้ตอบว่า เคยมีหนังสือไปบอร์ดองค์การคลังสินค้าหรือไม่ ในเรื่องที่เกี่ยวกับการทุจริตที่เกิดขึ้น”

สิ่งที่นายจุรินทร์เคยพูดในสภาฯ เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 ว่า ใครก็ตามที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดจะไม่มีละเว้น แม้แต่ประธานบอร์ด แต่ก็จงใจละเว้นไม่ปลดผอ.องค์การคลังสินค้า ปล่อยให้ดำรงตำแหน่งต่ออีกเกือบ 1 ปี เพื่อป้องกันไม่ให้ภัยมาถึงตัว

นอกจากนี้ ยังแต่งตั้งบุคคลที่มีประวัติไม่ชอบมาพากลเรื่องหน้ากากอนามัยขาดแคลน และมีราคาแพง ประชาชนเดือดร้อนถ้วนหน้า ในช่วงตอนต้นที่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 มาเป็น ผอ.องค์การคลังสินค้าคนใหม่ เพราะมีความสนิทสนม เป็นอย่างมาก กับครอบครัวนายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นน้องชายแท้ ๆ ของนายจุรินทร์

เมื่อนายจุรินทร์ทราบว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นจริง แต่ไม่อายัดเงินให้ทันสถานการณ์ มาดำเนินการอายัดหลังเงินออกจากบัญชีหมดแล้ว ส่งผลให้เกิดความเสียหาย

ผู้กระทำความผิดมีการฟอกเงิน 2,00 ล้านบาทอย่างเปิดเผย ไร้ยางอาย เริ่มตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2563 และมีการสร้างหลักฐานอันเป็นเท็จ ในการอออกหนังสือรับรองยอดเงินฝาก จนกระทั่งวันที่ 29 กันยายน 2563 ป.ป.ช.มีมติอายัดบัญชีเงินดังกล่าว

“เส้นทางการเงิน 2,000 ล้านบาท กลุ่มผู้ทุจริตเบิกเงินสด โอนเงินสด สร้างนอมินีรับเงินโอนหรือบัญชีม้าลักษณะปกปิด อำพราง เพื่อนำเงินไปแบ่งปันผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน โดยบริษัทการ์เดียนฯ ถอนเงินสดจากธนาคาร จำนวน 56.33 ล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน-3 พฤศจิกายน 2563 และโอนเงินให้นิติบุคคลอย่างมีข้อพิรุธ จำนวน 967.17 ล้านบาท”

อภิปรายไม่ไว้วางใจ

เรื่องเดิมแต่มีข้อมูลใหม่ จ่อยื่นป.ป.ช.อีกรอบ

“ผมสงสัยว่า เงินเหล่านี้อาจจะบินกลับมากระทรวงที่ตั้งอยู่ที่สนามบินน้ำ ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา รวมทั้งมีการโอนเงินให้บุคคลต่าง ๆ กว่า 40 บัญชี จำนวน 151 ล้านบาท และมีข้อพิรุธ”

“นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการโอนเงินเข้าบัญชีบุคคล ซึ่งสงสัยว่าไม่ใช่ค่าถุงมือยาง แต่เป็นการฟอกเงินลักษณะตัวแทน หากนายจุรินทร์มีคำสั่งอายัดเงิน ความเสียหายจะไม่เกิดขึ้น แต่นายจุรินทร์กลับทอดเวลาให้มีการฟอกเงินอย่างลอยนวล ปล่อยปละละเลยให้ผู้ทุจริตนำเงินไปใช้ อีกทั้งยังมีการโยกย้ายเงินเพื่อออกหนังสือรับรองเงินฝากด้วย แบบถอนเข้าถอนออก เพื่อสร้างหลักฐานรับรองยอดเงินฝาก”

“ผมแปลกใจที่พล.อ.ประยุทธ์ และนายจุรินทร์ เพิกเฉย อย่ามาอ้างว่า ตนเองไม่มีอำนาจหน้าที่ เพราะองค์การคลังสินค้าอยู่ภายใต้กำกับดูแลของกระทรวงพาณิชย์ อย่าอ้างไม่รู้ โง่จริง หรือจงใจแกล้งโง่”

นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า แม้การอภิปรายครั้งนี้จะเป็นเรื่องเดิม แต่ตอนนั้นมีเพียงคลิปเสียงการประชุมของบอร์ดองค์การคลังสินค้า ยังไม่มีใบเสร็จเส้นทางการเงิน และการทุจริตต้องมีผู้รับผิดชอบ แต่กลับแก้ตัวในสภาฯ ว่าไม่เกี่ยวข้องใด ๆ ถือว่ากรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา

หาก พล.อ.ประยุทธ์ และนายจุรินทร์ใช้อำนาจยับยั้ง ความเสียหายก็จะไม่เกิดขึ้น พฤติกรรมต่าง ๆ ล้วนมีข้อสังเกต และนัยยะสำคัญว่า เงินไปตกอยู่กับผู้มีอิทธิพลทางการเมือง ตนขอเรียกร้องให้ ป.ป.ช.สอบสวนพฤติกรรมเหล่านี้ เพราะยังไม่มีการดำเนินคดีกับฝ่ายการเมืองเลย และหลังจากวันนี้ จะนำข้อมูลใหม่ในคดีทุจริตจัดซื้อถุงมือยางไปยื่นป.ป.ช.อีกครั้ง

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo