Politics

ไทยเจอแล้ว 1 ราย ‘โอไมครอนลูกผสม XE’ แพร่เชื้อเร็ว ติดง่ายกว่าทุกสายพันธุ์

ไทยเจอแล้ว 1 ราย ‘โอไมครอนลูกผสม XE’ ที่แพร่เชื้อเร็ว ติดง่ายกว่าทุกสายพันธุ์ หลัง WHO เพิ่งเตือนให้ระวัง

วันนี้ (2 เม.ย.) ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้โพสต์ เฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics เรื่อง พบโอไมครอนลูกผสม ‘XE’ ในประเทศไทย ดังนี้

โอไมครอนลูกผสม XE

องค์การอนามัยโลก (WHO) เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2565 ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับโอมิครอนสายพันธุ์ลูกผสม  “XE” ที่แพร่เชื้อติดต่อได้ง่ายและรวดเร็วกว่าไวรัสโคโรนา 2019 ทุกสายพันธุ์ที่เราเคยประสบมา

277586042 4943135845794156 7889015840668232840 n

เจอแล้ว โอไมครอนลูกผสม XE 1 ราย และ เดลตาครอน 1 ราย

“XE” เป็นสายพันธุ์ลูกผสมระหว่างโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย “BA.1 X BA.2″ ไม่ใช่”เดลตาครอน” ซึ่งเป็นสายพันธู์ลูกผสมระหว่าง “เดลตา X โอมิครอน” WHO  ยังไม่ตั้งชื่อให้อย่างเป็นทางการจนกว่า “XE” จะแสดงอาการทางคลินิกที่รุนแรงแตกต่างไปจากสายพันธุ์ุอื่นอย่างมีนัยสำคัญ

สำหรับสายพันธุ์ลูกผสม “เดลตาครอน” หรือ “XD”  WHO  แจ้งว่าไม่พบการระบาดที่รวดเร็ว (transmissibility) และอาการที่รุนแรง (severity) แต่ประการใด

ล่าสุดศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ. รามาธิบดีตรวจพบสายพันธุ์ลูกผสม “XE” จากการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมจากตัวอย่างสวอปจากผู้ติดเชื้อ  ชาวไทย 1 ราย และจากการตรวจกรองด้วยเทคโนโลยี “Massarray Genotyping” พบสายพันธุ์ลูกผสม “เดลตาครอน (เดลตา X โอมิครอน)” อีก 1 ราย ซึ่งต้องยืนยันด้วยการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมอีกครั้งหนึ่ง

โอมิครอนสายพันธุ์ลูกผสม  “XE” พบครั้งแรกในสหราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2565 โดยมีการถอดรหัสพันุกรรมทั้งจีโนม และอัปโหลดขึ้นไปแชร์ไว้บนฐานข้อมูลโควิด-19 โลกแล้วมากกว่า 600 ตัวอย่าง

โอไมครอนลูกผสม XE

WHO ระบุ โอไมครอนลูกผสม XE ระบาดเร็วกว่า BA.2 ถึง 10% จับตาจะระบาดทั่วโลกหรือไม่

WHO ประเมินว่าสายพันธุ์ลูกผสม “XE”  มีอัตราการแพร่ระบาด (growth advantage) เหนือกว่า BA.2  ถึง 10% อย่างไรก็ตามยังต้องรอข้อมูลจากทั่วโลกที่ร่วมด้วยช่วยกัน ถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมอีกระยะหนึ่งเพื่อการยืนยัน

ตามรายงานของสำนักงานบริการสุขภาพแห่งสหราชอาณาจักร (UK Health Services Agency) หรือ “UKHSA”  ยืนยันเช่นเดียวกันว่า สายพันธุ์ลูกผสม “XE” สามารถแพร่ระบาดได้รวดเร็วกว่า “BA.2” ประมาณ 10% และแพร่ได้รวดเร็วกว่าโอมิครอนสายพันธุ์ดั้งเดิม (B.1.1.529) ถึง 43%

คงต้องอาศัยเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าสายพันธุ์ลูกผสม “XE” จะกลายเป็นคลื่นระลอกใหม่ที่ระบาดไปทั่วโลกและเข้ามาแทนที่ BA.2 ได้หรือไม่

โอไมครอนลูกผสม XE

หมายเหตุ

การจัดหมวดหมู่ลูกผสมโดย Phylogenetic Assignment of Named Global Outbreak Lineages (PANGOLIN)

หมวด 1 สายพันธุ์ลูกผสมระหว่าง “Delta x BA.1” ประกอบด้วยสมาชิก 2 สายพันธุ์

  1. XD-เป็นสายพันธุ์ลูกผสม ระหว่าง Delta x BA.1 lineage พบในฝรั่งเศส ประกอบด้วยยีน S ที่สร้างหนามแหลม ส่วนอื่นเป็นจีโนมจากเดลตา
  2. XF-จีโนมมีส่วนผสมระหว่าง ยีน S และยีนที่สร้างโปรตีนสำคัญของอนุภาคไวรัส มาจาก BA.1 กับส่วน 5’ จากจีโนมของเดลตา

หมวด 2 สายพันธุ์ลูกผสมระหว่าง BA.1XBA.2 ประกอบด้วยสมาชิก 6 สายพันธุ์

  1. XE-พบในอังกฤษ จีโนมมีส่วนผสมระหว่าง ยีน S และยีนที่สร้างโปรตีนสำคัญของอนุภาคไวรัส มาจาก BA.2 กับส่วน 5’ จากจีโนมของ BA.1 แสดงอัตราการแพร่ระบาด (growth advantage) เหนือ BA.2 ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ. รามาธิบดีถอดรหัสพันธุกรรมพบแล้ว 1 ราย
  2. XG-พบในเดนมาร์ก

III. XH-พบในเดนมาร์ก

  1. XJ-พบในฟินแลนด์
  2. XK-พบในเบลเยียม มีการกลายพันธุ์ต่างไปจากไวรัสดั้งเดิม “อู่ฮั่น” เกือบ 100 ตำแหน่ง มากกว่าทุกสายพันธุ์ ยังไม่พบในประเทศไทย
  3. XL-พบในอังกฤษ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo