WHO ออกคำเตือน ‘โอไมครอนลูกผสม XE’ ระหว่างสายพันธุ์ย่อย BA.1 และ BA.2 อาจเป็นโควิด ที่ ‘แพร่เร็วที่สุด’ ตั้งแต่เคยเห็นมา
สื่อต่างประเทศ รายงานว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกคำเตือนเมื่อเร็วๆ นี้ เกี่ยวกับเชื้อโควิด โอไมครอนลูกผสม XE อาจเป็นไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ติดเชื้อได้รวดเร็วที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19
โอไมครอน XE เป็นเชื้อโควิดไฮบริด หรือลูกผสมระหว่างโอไมครอน สายพันธุย่อย BA.1 กับ BA.2 ซึ่งถูกตั้งฉายาให้ว่า ‘โอไมครอนล่องหน’ และขณะนี้โอไมครอน BA.2 กำลังกลายเป็นเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดไปทั่วโลก พบผู้ติดเชื้อแล้วถึง 86% ของจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้งหมด
ฺBA.2 ว่าแพร่เชื้อเร็วแล้ว XE แพร่เชื้อเร็วกว่า
เนื่องจากเชื้อโอไมครอน BA.2 เป็นโควิดกลายพันธุ์ ที่สามารถหลบหลีกภูมิคุ้มกันในร่างกายมนุษย์ได้ดีขึ้นกว่าเดิม และสามารถแพร่ติดเชื้อได้เร็วกว่าโอไมครอนตัวแม่ BA.1 ถึง 30%
แต่ถึงอย่างไร ศักยภาพของเชื้อโอไมครอน BA.2 ในการแพร่ติดเชื้อก็ยังน้อยกว่า สายพันธุ์ย่อย XE ซึ่งเป็นโอไมครอนกลายพันธุ์ใหม่ ลูกผสมระหว่าง BA.1 กับ BA.2 จึงทำให้เชื้อโควิดโอไมครอน XE สามารถแพร่ติดเชื้อได้เร็วกว่าโควิดโอไมครอน BA.2 ถึง 10%
องค์การอนามัยโลก บังระบุว่า โอไมครอนลูกผสม พบครั้งแรกในสหราชอาณาจักร เมื่อ 19 มกราคม และขณะนี้มีรายงานยืนยันพบผู้ติดเชื้อโอไมครอน XE น้อยกว่า 600 ราย
องค์การอนามัยโลกจะยังคงเฝ้าจับตาเชื้อโควิดโอไมครอน XE อย่างใกล้ชิด ถึงความเสี่ยงต่อระบบสาธารณสุข ควบคู่ไปกับเชื้อโควิดสายพันธุ์อื่นๆ และจะมีการรายงานความคืบหน้า หากพบหลักฐานสำคัญเพิ่มเติมของโอไมครอน XE
องค์การอนามัยโลกยังแสดงความกังวล ในกรณีที่มีการลดการตรวจหาเชื้อโควิด-19 อย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ประเทศต่างๆ ทั่วโลกเริ่มกลับมาเปิดประเทศ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- พัฒนาสำเร็จ ‘ไวรัสตัวแทน’ ก๊อปปี้โควิด ใช้ทดสอบสูตรวัคซีนและยารักษา รับมือไวรัสกลายพันธุ์
- มัดรวม ผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว ทุกสิทธิรักษา ต้องไปรพ.ไหน?
- กทม. เพิ่มจุดบริการ ‘เจอ แจก จบ’ 15 เขตที่มีผู้ติดเชื้อสูง