ทปอ.เล็งฟ้องแพ่ง เรียกค่าลิขสิทธิ์ ‘ข้อสอบPATหลุด’ พร้อมตัดสิทธิ์น.ร.ทุจริต 5 ปี สั่งตรวจสอบละเอียด โดยเฉพาะอุปกรณ์ไฮเทค
ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.คลองหลวง จ.ปุทมธานี เนื่องจากพบว่ามีการทุจริตการสอบวิชา PAT1 ความถนัดทางคณิตศาสตร์ สอบวันที่ 12 มีนาคม เวลา 13.00-16.00 น. และการสอบวิชา PAT2 ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ สอบวันที่ 13 มีนาคม เวลา 08.30-11.30 น. โดยพบว่า ข้อสอบทั้ง 2 วิชาถูกเผยแพร่ในแอพพลิเคชั่น สแนปอาส์ค
รศ.ดร.ชาลี เจริญลาภนพรัตน์ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ในฐานะผู้จัดการระบบสอบการคัดเลือกกลางบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา หรือทีแคส ของ ทปอ. กล่าวว่า หลังจากแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว ทางทปอ.ได้ดำเนินการสอบสวน โดยได้ประสานขอข้อมูลไปยังผู้ดำเนินการแอพพลิเคชั่น ที่มีการเผยแพร่ภาพข้อสอบทั้ง 2 รายวิชา เพื่อขอข้อมูลการทุจริต
ตัดสิทธิ์นักเรียนทุจริต 5 ปี พร้อมดำเนินคดีละเมิดลิขสิทธิ์ผู้ร่วมขบวนการ
แต่อาจไม่ได้รับข้อมูลเพราะทราบว่า แอปฯ ดังกล่าวได้เปลี่ยนเจ้าของจากคนไทยเป็นชาวต่างประเทศแล้ว ทั้งนี้ทางทปอ. มั่นใจว่าจะสามารถหาตัวผู้ทำการทุจริตได้ภายใน2-3 วัน แต่ไม่สามารถเปิดเผยวิธีการได้
เบื้องต้นตัวนักเรียนที่ทำการทุจริตจะถูกตัดสินการสอบเป็นเวลา 5 ปี และเนื่องจากข้อสอบที่ถูกเผยแพร่เป็นลิขสิทธิ์ของทปอ. ดังนั้นจึงจะมีการแจ้งความ ดำเนินคดีทางแพ่งเพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย แก่ผู้ที่ทำการทุจริต และผู้ร่วมขบวนการด้วย
เผยขั้นตอนการทุจริต ข้อสอบPATหลุด ด้วย ‘อุปกรณ์ไฮเทค’ ย้ำไม่ยกเลิกการสอบ
“อย่างไรก็ตาม เท่าที่ดูการทุจริตครั้งนี้ ทำเป็นขบวนการโดยใช้อุปกรณ์ไฮเทค แต่เชื่อว่าไม่ใช่โทรศัพท์มือถือ เพราะทดลองถ่ายจากมุมข้อสอบแล้ว น่าจะใช้อุปกรณ์อื่น เช่น แว่นตา ปากกา หรือนาฬิกาที่ถ่ายรูปได้ แล้วส่งต่อให้ผู้ที่อยู่ด้านนอก เพื่อส่งให้แอปฯดังกล่าว เมื่อได้คำตอบ ก็ส่งกลับมาให้ผู้สอบ”
ดังนั้นจึงเชื่อว่า ไม่ได้ทำคนเดียวแน่นอน ส่วนจะต้องยกเลิกการสอบในวิชาที่มีการทุจริตหรือไม่นั้น โดยปกติหากมีการทุจริตเกิดขึ้นในวงกว้าง เช่น ส่งผลให้คนกลุ่มใหญ่หรือนักเรียนจากโรงเรียนใดโรงเรียนหนึ่งได้ประโยชน์ ก็จะต้องยกเลิกการจัดสอบทันที
แต่เนื่องจาการจัดสอบใหม่ ส่งผลกระทบค่อนข้างสูง รวมถึงทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ ดังนั้น หากไม่ใช่การทุจริตที่ส่งผลกระทบในวงกว้าง ก็จะไม่มีการยกเลิกการสอบ
แต่จะเป็นการลงโทษเฉพาะตัวผู้ที่ทำการทุจริตเท่านั้น ซึ่งเท่าที่ดูกรณีนี้ยังไม่มีผลกระทบในวงกว้าง เป็นการทุจริตเฉพาะตัว มีการเลือกข้อสอบเพียงบางข้อเพื่อส่งภาพเผยแพร่ในแอพพ์ดังกล่าว และรอผู้มาเฉลยคำตอบให้ แบ่งเป็น PAT1จำนวน 4 ข้อ PAT2 จำนวน3 ข้อ
คุมเข้มผู้เข้าสอบ โดยเฉพาะอุปกรณ์ไฮเทคต่างๆ
รศ.ดร.ชาลี กล่าวต่อว่า สำหรับการสอบวันที่ 14 มีนาคม จะสอบวิชา PAT3 ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์ และPAT4 ความถนัดทางสถาปัตยกรรมศาสตร์ และวันที่ 15 มีนาคม จะสอบวิชาPAT 6ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์ และPAT 7 ความถนัดทางภาษาต่างประเทศ
ทางทปอ. ได้กำชับศูนย์สอบทุกแห่งทั้ง 213 สนามสอบทั่วประเทศ ให้ตรวจสอบอุปกรณ์ของนักเรียนก่อนเข้าสอบ ทั้งกระดุมกล้อง ปากกา นาฬิกา แว่นตา โทรศัพท์ รวมถึงตรวจร่างกายโดยเฉพาะนักเรียนที่ไว้ผมยาวปิดใบหู ให้ตรวจที่รูหู ที่อาจเสียบ สมอลทอร์ค ไว้เป็นอุปกรณ์ในการทุจริตได้
ขณะที่ร่างกายส่วนอื่น ๆ นั้นมีการตรวจเข้มอยู่แล้ว ทั้งนี้ตนขอเตือนนักเรียนทุกคน ว่าอย่าทำการทุจริต เพราะเป็นสิ่งไม่ดี และจะทำให้เสียอนาคตรวมถึงมีความผิดทางกฎหมายด้วย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- จัดสถานที่รอรับ นักเรียนติดโควิด-เสี่ยงสูง เข้าสอบ ‘TCAS’
- ‘รักษาโควิดแบบผู้ป่วยนอก’ (OPD) คืออะไร ติดเชื้อต้องทำอย่างไร เช็คที่นี่
- แนะวิธีดูแล ‘เด็กติดโควิด” กักตัวที่บ้าน ย้้ำอาการไม่มาก ผู้ปกครองไม่ต้องกังวล
